ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
ก่อนการใช้งานแต่ละครั้งหรือทุกวัน |
|
อุปกรณ์นี้ผลิตมาเพื่อผู้ให้บริการมืออาชีพที่ต้องการนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ โดยออกแบบมาสำหรับการตัดหญ้าในสนามที่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีภายในสวน สนามกอล์ฟ สนามกีฬา และพื้นที่เชิงพาณิชย์
Important: กรุณาอ่านเอกสารนี้อย่างละเอียดเพื่อศึกษาวิธีควบคุมและบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม และเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บและความเสียหายต่อผลิตภัณฑ์ คุณมีหน้าที่ใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้องและปลอดภัย
โปรดเข้าไปที่เว็บไซต์ www.Toro.com เพื่อดูเอกสารความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และเอกสารฝึกอบรมการใช้งาน ข้อมูลอุปกรณ์เสริม ความช่วยเหลือเพื่อค้นหาตัวแทนจำหน่าย หรือลงทะเบียนผลิตภัณฑ์
หากคุณต้องการการซ่อมบำรุง อะไหล่แท้ของ Toro หรือข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อตัวแทนบริการที่ได้รับอนุญาตหรือฝ่ายบริการลูกค้าของ Toro และเตรียมหมายเลขรุ่นและหมายเลขซีเรียลของผลิตภัณฑ์ไว้ให้พร้อม รูป 1 ระบุตำแหน่งของหมายเลขรุ่นและหมายเลขซีเรียลบนผลิตภัณฑ์ จดบันทึกหมายเลขในช่องว่างที่กำหนดให้
Important: นอกจากนี้ คุณสามารถใช้มือถือสแกนรหัส QR บนสติกเกอร์หมายเลขซีเรียลได้ (ถ้ามี) เพื่อเข้าถึงข้อมูลการรับประกัน อะไหล่ และข้อมูลผลิตภัณฑ์อื่นๆ
คู่มือฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และระบุข้อความความปลอดภัยที่แสดงด้วยสัญลักษณ์เตือนอันตราย (รูป 2) ซึ่งบ่งบอกอันตรายที่อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงหรือเสียชีวิตหากคุณไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังที่แนะนำ
คู่มือฉบับนี้ใช้คำ 2 คำในการเน้นข้อมูล สำคัญ เพื่อให้คุณใส่ใจศึกษาข้อมูลพิเศษเกี่ยวกับกลไกและ หมายเหตุ เพื่อเน้นข้อมูลทั่วไปที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ
ผลิตภัณฑ์นี้ได้มาตรฐานตามคำสั่งยุโรปทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูเอกสารรับรองมาตรฐาน (DOC) เฉพาะของผลิตภัณฑ์แยกต่างหาก
อุปกรณ์นี้ออกแบบมาตามมาตรฐาน ANSI B71.4-2017
แคลิฟอร์เนีย
คำเตือนข้อเสนอ 65
การใช้ผลิตภัณฑ์นี้อาจทำให้ต้องสัมผัสกับสารเคมีที่รัฐแคลิฟอร์เนียทราบว่าเป็นสาเหตุการเกิดโรคมะเร็ง ความพิการแต่กำเนิด หรืออันตรายต่อระบบสืบพันธุ์อื่นๆ
อุปกรณ์นี้อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บแก่มือและเท้า รวมถึงเกิดอันตรายจากวัตถุกระเด็นได้ ดังนั้น ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยทั้งหมดอยู่เสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บร้ายแรง
อ่านและทำความเข้าใจเนื้อหาของคู่มือผู้ใช้ฉบับนี้ก่อนจะสตาร์ทเครื่อง
โปรดมีสมาธิขณะควบคุมอุปกรณ์ อย่าทำกิจกรรมที่ทำให้เสียสมาธิ มิฉะนั้นอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหรือเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินได้
อย่านำมือหรือเท้าเข้าใกล้ชิ้นส่วนเคลื่อนไหวของเครื่องจักร
หากไม่ได้ติดตั้งแผงกั้นและอุปกรณ์นิรภัยอื่นๆ ทั้งหมด หรือแผงกั้นและอุปกรณ์นิรภัยทำงานผิดปกติ กรุณาอย่าใช้เครื่อง
ห้ามขวางท่อหรือช่องเปิดใดๆ โดยเด็ดขาด
กันคนโดยรอบและเด็กๆ ออกจากพื้นที่ทำงาน ห้ามเด็กใช้งานอุปกรณ์โดยเด็ดขาด
ก่อนออกจากตำแหน่งใช้งาน ให้ปฏิบัติตามดังนี้
จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ
ลดชุดตัดหญ้าลง
ปลดระบบขับเคลื่อน
ดึงเบรกมือ (ถ้ามี)
ดับเครื่องยนต์และดึงกุญแจออก
รอให้การเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดนิ่ง
การใช้งานหรือบำรุงรักษาอย่างไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดการบาดเจ็บ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยและสังเกตสัญลักษณ์เตือนอันตราย ได้แก่ ข้อควรระวัง คำเตือน หรืออันตราย ซึ่งเป็นคำแนะนำเพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคล การไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้อาจส่งผลให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
สติกเกอร์และคำแนะนำด้านความปลอดภัยมองเห็นได้ชัดเจน และติดอยู่ใกล้กับบริเวณที่มีโอกาสเกิดอันตราย เปลี่ยนสติกเกอร์ที่เสียหายหรือหายไป |
สติกเกอร์เตือนการเกี่ยวพัน CE 138-9038
ชิ้นส่วนที่ต้องใช้สำหรับขั้นตอนนี้:
สติกเกอร์เตือนการเกี่ยวพัน CE | 4 |
Important: ขั้นตอนนี้จำเป็นสำหรับประเทศในกลุ่ม CE ทั้งหมด และสถานที่ที่ไม่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก
หมุนปลอกครอบเพลาเพื่อเข้าถึงสติกเกอร์เตือนการเกี่ยวพันที่มีอยู่เดิม (รูป 3)
ทำความสะอาดสติกเกอร์เตือนการเกี่ยวพันที่มีอยู่เดิมและบริเวณแผงกั้นรอบ ๆ สติกเกอร์
แกะสติกเกอร์เตือนการเกี่ยวพัน CE ออกจากกระดาษรอง
ติดสติกเกอร์เตือนการเกี่ยวพัน CE ทับสติกเกอร์เตือนการเกี่ยวพันที่มีอยู่เดิม (รูป 3)
ทำซ้ำขั้นตอน 1 ถึง 4 กับปลอกครอบเพลาอีก 3 อัน
ชิ้นส่วนที่ต้องใช้สำหรับขั้นตอนนี้:
ลูกบิด | 6 |
ถอดฝาครอบฐานเครื่องตัดหญ้า โปรดดู การถอดฝาครอบฐาน
ถอดแหวนกดที่ยึดสลักเกลียวเข้ากับฝาครอบฐานและถอดสลักเกลียวออกจากฝาครอบ (รูป 4)
ติดตั้งฝาครอบฐานเครื่องตัดหญ้าด้วยลูกบิด โปรดดู การติดตั้งฝาครอบฐาน
ทำซ้ำขั้นตอน 1 ถึง 3 สำหรับฝาครอบฐานที่เหลือ
ปรับเหล็กต่อพ่วง (รูป 5) ของรถลากไปยังตำแหน่งยืด โปรดดูคู่มือผู้ใช้ของรถลาก
พิจารณาสภาพพื้นที่ทำงานดังต่อไปนี้ เพื่อกำหนดตำแหน่งเหล็กลากจูงของเครื่องตัดหญ้าให้เหมาะสม:
สนามที่มีเนินและลาดเอียง—ตั้งค่าเหล็กลากจูงให้สั้นลง
สนามที่มีพื้นที่ราบเรียบเป็นส่วนใหญ่—ตั้งค่าเหล็กลากจูงให้ยาวขึ้น
Note: คุณอาจต้องลองปรับความยาวเหล็กลากจูงให้อยู่ตรงกลาง หากพื้นที่ทำงานมีทั้งพื้นราบและเนินลาดชัน
Note: เหล็กลากจูงของเครื่องตัดหญ้ามีจุดลากจูง 5 ตำแหน่งที่ช่วยให้คุณปรับความยาวได้ 20 ซม. (8 นิ้ว)
ถอดน็อตล็อกมีบ่า 2 ตัว, สกรูหัวจม 2 ตัวและแหวน 2 วงที่ยึดท่อหัวลากเข้ากับท่อรับ (รูป 6)
ปรับตำแหน่งท่อหัวลากในท่อรับตามตำแหน่งที่คุณกำหนดใน การประเมินพื้นที่ทำงาน
ประกอบท่อหัวลากเข้ากับท่อรับด้วยน็อตล็อกมีบ่า สกรูหัวจม และแหวนที่ถอดออกมาในขั้นตอนที่ 1
ขันน็อตและสกรูหัวจมจนได้แรงบิด 91 ถึง 113 นิวตันเมตร (67 ถึง 83 ฟุตปอนด์)
ชิ้นส่วนที่ต้องใช้สำหรับขั้นตอนนี้:
หมุดหัวลาก | 2 |
ปิ๊นตัวอาร์ | 2 |
Note: ติดต่อตัวแทนจำหน่าย Toro ที่ได้รับอนุญาตเพื่อขออุปกรณ์เสริมหัวลากแบบตะขอต่อพ่วง
วัดความสูงจากพื้นถึงด้านบนสุดของหัวลากบนรถลาก
ปรับหัวลากโครงขนส่งขึ้นหรือลงตามค่าที่วัดได้ของหัวลากอุปกรณ์ ใช้รูยึดที่เหมาะสมตามที่แสดงในตารางด้านล่างและใน รูป 7
ความสูงหัวลากรถลาก | รูยึดของโครง |
ต่ำกว่า 36 ซม. (14 นิ้ว) | ใช้รู 2 และ 4 |
สูงกว่า 36 ซม. (14 นิ้ว) | ใช้รู 1 และ 3 |
ยึดหัวลากโครงเข้ากับหัวลากอุปกรณ์ด้วยหมุดหัวลากและปิ๊นตัวอาร์ โปรดดู การต่อเครื่องตัดหญ้าเข้ากับรถลาก
ถอดหมุดกลมออกจากแม่แรงและหมุนแม่แรงเพื่อให้อยู่ในตำแหน่งจัดเก็บ ติดตั้งหมุดกลมเพื่อยึดไว้ในตำแหน่งจัดเก็บให้แน่นหนา
ชิ้นส่วนที่ต้องใช้สำหรับขั้นตอนนี้:
ครึ่งหนึ่งของเพลาขับ PTO (ครึ่งหน้า) | 1 |
จับท่อด้านในของเพลาขับ PTO ครึ่งท้ายให้ตรงกับท่อด้านนอกของเพลาขับ PTO ครึ่งหน้า แล้วเลื่อนท่อเข้าหากัน (รูป 8)
Important: ปลายของเพลาขับ PTO ด้านในและด้านนอกประกอบกันได้ 1 ทางเท่านั้น—อย่าใช้แรงฝืนประกอบเข้าด้วยกัน
เลื่อนเพลาขับ PTO ลงบนที่วางเพลาขับของโครงนำท่ออ่อน (รูป 9)
ยืดเพลาขับ PTO ออกมาบางส่วนเพื่อเข้าถึงรูอัดจาระบีที่อยู่ใกล้กับตรงกลางของปลอกครอบเพลาขับของบอร์ดด้านใน (รูป 10)
อัดจาระบีเข้าในรูอัดจาระบีสำหรับข้อต่อเพลาขับแบบยืดหดได้ดังที่แสดงใน รูป 10
Note: ข้อมูลจำเพาะและการออกแบบอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
อัตรากำลังเอาต์พุตของ PTO ขั้นต่ำ | 26 กิโลวัตต์ (35 แรงม้า) |
ความเร็ว PTO ที่แนะนำ | 540 รอบต่อนาที |
การหมุน PTO | ตามเข็มนาฬิกา (มองจากหลังรถลาก) |
แกนหมุน PTO | เส้นผ่านศูนย์กลาง 34.8 มม. (1⅜ นิ้ว), 6 ร่อง |
แรงดันไฮดรอลิกขั้นต่ำ | 13,790 กิโลปาสกาล (2,000 ปอนด์ต่อตร.นิ้ว) |
ระบบลาก | เหล็กต่อพ่วงและหมุด—เส้นผ่านศูนย์กลาง 25 มม. (1 นิ้ว) |
หัวลากเคลวิส (ติดต่อตัวแทนจำหน่าย Toro ที่ได้รับอนุญาตเพื่อขออุปกรณ์เสริมหัวลากแบบตะขอต่อพ่วง) |
น้ำหนัก | 1,354 กก. (2,984 ปอนด์) | |
น้ำหนักตัวยึด | 313 กก. (691 ปอนด์) | |
กว้าง | ตำแหน่งการตัดหญ้า | 381 ซม. (150 นิ้ว) |
ตำแหน่งขนส่ง—ความสูงในการตัด 13 มม. (½ นิ้ว) | 218 ซม. (86 นิ้ว) | |
สูง | ตำแหน่งการตัดหญ้า | 78 ซม. (31 นิ้ว) |
ตำแหน่งการวางอุปกรณ์สำหรับการขนส่ง | 193 ซม. (76 นิ้ว) | |
ยาว | ยืดหัวลากจนสุด | 371 ซม. (146 นิ้ว) |
ความกว้างในการตัด | 365 ซม. (144 นิ้ว) | |
ความสูงในการตัด | 13 ถึง 102 มม. (½ ถึง 4.0 นิ้ว) | |
ขีดความสามารถในการตัด | 9.7 กม./ชม. (6 ไมล์ต่อชั่วโมง) | 3.5 เฮกตาร์ / ชม. (8.7 เอเคอร์ / ชม.) |
ความเร็วขนส่งสูงสุด | 30 กม. ต่อชั่วโมง (19 ไมล์ต่อชั่วโมง) |
เราจัดจำหน่ายอุปกรณ์ต่อพ่วงและอุปกรณ์เสริมที่ Toro รับรองมากมายสำหรับใช้กับเครื่องตัดหญ้ารุ่นนี้เพื่อเสริมประสิทธิภาพและขยายความสามารถของเครื่องตัดหญ้า โปรดติดต่อตัวแทนบริการหรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต หรือเข้าไปที่ www.Toro.com เพื่อดูรายการอุปกรณ์ต่อพ่วงและอุปกรณ์เสริมที่รับรองทั้งหมด
เพื่อสมรรถนะสูงสุดและความปลอดภัยในการใช้งานอย่างต่อเนื่อง โปรดใช้เฉพาะอะไหล่ทดแทนและอุปกรณ์เสริมของแท้จาก Toro อะไหล่ทดแทนและอุปกรณ์เสริมที่ผลิตโดยผู้ผลิตรายอื่นอาจเป็นอันตราย และการใช้งานดังกล่าวอาจทำให้การรับประกันผลิตภัณฑ์เป็นโมฆะ
ห้ามเด็กหรือผู้ที่ไม่ได้รับการฝึกฝนใช้หรือบำรุงรักษาอุปกรณ์โดยเด็ดขาด กฎหมายท้องถิ่นอาจจำกัดอายุของผู้ขับขี่ เจ้าของเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการฝึกอบรมให้กับผู้ควบคุมและช่างซ่อมบำรุง
เก็บมือให้ห่างจากบริเวณหมุนของข้อต่อขณะจัดการเพลาขับ PTO
อย่าเหยียบบน เหนือ หรือใต้ PTO หรือเพลาขับ
ทำความคุ้นเคยกับการใช้งานอุปกรณ์อย่างปลอดภัย ระบบควบคุมของผู้ขับขี่ และป้ายความปลอดภัย
เรียนรู้วิธีหยุดและดับเครื่องยนต์อย่างรวดเร็ว
ห้ามใช้อะแดปเตอร์ร่องหรือส่วนขยายร่อง PTO
ใช้รถลากกับเครื่องตัดหญ้าที่มีความเร็ว PTO สูงสุด 540 รอบต่อนาที (9 รอบต่อวินาที) เท่านั้น
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแผงกั้นและเครื่องป้องกันทั้งหมดติดตั้งไว้อย่างถูกต้องและมีสภาพดี เปลี่ยนแผงกั้นและเครื่องป้องกันที่หายไป ชำรุด หรือสึกหรอก่อนการใช้งานอุปกรณ์
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเพลาขับ PTO ไม่สัมผัสกับเหล็กต่อพ่วง
ก่อนตัดหญ้า ตรวจสอบอุปกรณ์ให้แน่ใจเสมอว่าใบมีด สลักเกลียวยึดใบมีด และชิ้นส่วนชุดตัดอยู่ในสภาพดีและทำงานได้ตามปกติ เปลี่ยนใบมีดหรือสลักที่สึกหรอหรือชำรุดทั้งชุดเพื่อรักษาความสมดุลเอาไว้
ตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่ต้องการใช้อุปกรณ์และจัดเก็บวัตถุต่างๆ ที่อาจกระเด็นออกให้หมด
ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถลากเหมาะสมสำหรับใช้งานกับเครื่องตัดหญ้าที่หนักขนาดนี้ โดยการตรวจสอบกับผู้จัดหาหรือผู้ผลิตรถลาก
ทำความคุ้นเคยกับการใช้งานส่วนควบคุมของรถฉุดลากก่อนที่คุณจะใช้งานเครื่องตัดหญ้า
การเข้าเกียร์ PTO
ความเร็วเครื่องยนต์/PTO
การควบคุมอุปกรณ์ต่อพ่วงท้าย (ยก/ลดระดับ)
การควบคุมวาล์วเสริม
คลัตช์
คันเร่ง
คันเกียร์
เบรกมือ
Important: โปรดดูคำแนะนำในการใช้งานในคู่มือผู้ใช้ของรถฉุดลาก
โปรดดูคู่มือผู้ใช้ของรถลากพ่วง Outcross สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมและการใช้งาน รวมถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเตรียมอุปกรณ์เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ต่อพ่วงนี้
เครื่องตัดหญ้านี้ออกแบบมาให้ทำงานกับความเร็ว PTO สูงสุด 540 รอบต่อนาที รถลากส่วนใหญ่ระบุ PTO 540 รอบต่อนาทีบนมาตรความเร็ว
ก่อนการใช้งานเครื่องตัดหญ้า หาพื้นที่เปิดโล่งและฝึกซ้อมการใช้งานอุปกรณ์ ควบคุมรถลากด้วยเกียร์และความเร็วขับ PTO ที่แนะนำ และทำความคุ้นเคยกับลักษณะการขับของรถลากและเครื่องตัดหญ้าให้ดี ฝึกการยกและลดระดับฐานเครื่องตัดหญ้า การหยุดและการเริ่มการขับ PTO รวมถึงการควบคุมทิศทางอุปกรณ์ให้ตรงกับเส้นทางที่ผ่านมา การฝึกฝนจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานเครื่องตัดหญ้า และรับรองการใช้เทคนิคการตัดหญ้าที่เหมาะสม
อุปกรณ์ต่อพ่วงที่ทำงานอยู่อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บได้
เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ อย่าลุกออกจากที่นั่งคนขับโดยไม่ปลดการขับ PTO, ดึงเบรกมือ ดับเครื่องยนต์ และดึงกุญแจออกก่อน ตรวจสอบให้แน่ใจว่า อุปกรณ์นิรภัยทั้งหมดติดตั้งเข้าที่แน่นหนาก่อนกลับไปใช้งาน
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
ก่อนการใช้งานแต่ละครั้งหรือทุกวัน |
|
แรงดันลมยางต่ำจะทำให้ความมั่นคงของเครื่องตัดหญ้าลดลงขณะขนส่ง ซึ่งอุปกรณ์อาจพลิกคว่ำ ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
อย่าใช้งานเครื่องตัดหญ้าเมื่อล้อแบน
ตรวจสอบแรงดันลมยางทุกวัน
แรงดันลมยางควรวัดได้ 207 กิโลปาสกาล (30 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว)
หากแรงดันลมยางไม่ใช่ 30 ปอนด์ต่อตร.นิ้ว ให้เพิ่มลมหรือปล่อยลมออกจากล้อ
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
ก่อนการใช้งานแต่ละครั้งหรือทุกวัน |
|
ถ้ามีติดตั้งเข้ากับรถลาก ให้ถอดเพลาขับออก
หมุนปลอกครอบเพลา PTO ส่วนครึ่งหน้าจนครบรอบรูป 16
Note: ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนปลอกครอบเพลา หากหมุนแล้วฝืด
ขยับปลอกครอบเพลา PTO ครึ่งหน้าเข้าและออก เพื่อให้แน่ใจว่าปลอกยืดและหดได้อย่างอิสระ (รูป 16)
Note: ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนปลอกครอบเพลา หากยืดและหดแล้วฝืด
ถ้าถูกถอดออกจากรถลาก ให้ติดตั้งเพลาขับ โปรดดู การต่อเพลาขับเข้ากับ PTO
ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีโซ่หน่วงเหนี่ยวติดตั้งอยู่ระหว่างปลอกครอบเพลา PTO ด้านหน้ากับส่วนที่อยู่กับที่บนรถลาก (รูป 17)
ตรวจสอบว่าโซ่หน่วงเหนี่ยวสำหรับปลอกครอบเพลาขับเชื่อมต่ออยู่กับกระปุกเกียร์ตรงกลาง และกระปุกเกียร์บนฐานเครื่องตัดหญ้าแต่ละอัน (รูป 18, รูป 19, รูป 20 และ รูป 21)
ตรวจสอบข้อรัดท่ออ่อน 7 ตัวว่ายึดปลอกครอบเพลาขับเข้ากับกระปุกเกียร์ตรงกลางและของฐานอย่างแน่นหนา (รูป 22)
จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ ดันคันเปลี่ยนเกียร์ไปยังตำแหน่ง เกียร์ว่าง
ดึงเบรกมือ ดับเครื่องยนต์ ดึงกุญแจออก และรอให้ชิ้นส่วนเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดนิ่ง
ถอดหมุดและหมุนแม่แรงลากจูงในแนวดิ่ง (รูป 23)
จัดตำแหน่งรูในเหล็กลากจูงให้ตรงกับรูในแม่แรง (รูป 23)
สอดหมุดผ่านรูในเหล็กลากจูงและแม่แรง (รูป 23)
หมุนมือจับแม่แรงจนกว่าแม่แรงจะรองรับน้ำหนักของเครื่องตัดหญ้าอย่างเต็มที่
ขัดล้อทั้งสองของเครื่องตัดหญ้า (รูป 24)
ถอดท่ออ่อนไฮดรอลิกและเพลาขับ PTO ออกจากรถลาก
ถอดหัวลากออกจากเหล็กลากจูง
ขับรถลากเป็นทางตรงออกห่างจากเครื่องตัดหญ้า
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องตัดหญ้าต่อเข้ากับรถลากอย่างแน่นหนา
หมุนมือจับแม่แรงจนยกแผ่นรองแม่แรงจนสุด โปรดดู รูป 23 ใน การรองรับเครื่องตัดหญ้าด้วยแม่แรง
ถอดหมุดและหมุนแม่แรงลากจูงในแนวนอน
จัดตำแหน่งรูในเหล็กลากจูงให้ตรงกับรูในแม่แรง
สอดหมุดผ่านรูในเหล็กลากจูงและแม่แรง
ตรวจสอบให้แน่ใจว่า เครื่องตัดหญ้าถูกรองรับด้วยแม่แรงลากจูง โปรดดู การใช้แม่แรงเหล็กลากจูง
ลดระดับหัวลาก 3 จุด โปรดดูคู่มือผู้ใช้ของรถลาก
ถ้ามีติดตั้งอยู่ ให้ถอดหมุดสลัก หมุดเคลวิส และก้านโยง 3 จุดส่วนบนจากโครงยึดก้านโยงส่วนบน (รูป 25)
ปรับแขนกันโคลง (รูป 26) ออกไปจนสุด โปรดดูคู่มือผู้ใช้ของรถลาก
หากเครื่องตัดหญ้าของคุณมีเหล็กลากจูงแบบหมุด ให้ถอดปิ๊นตัวอาร์และหมุดหัวลากออกจากเหล็กลากจูง
หากรถลากใช้หัวลากแบบตะขอต่อพ่วง ให้เปิดหัวลาก
เส้นผ่านศูนย์กลางรูของหมุดหัวลาก: 31.75 มม. (1¼ นิ้ว)
ความสูงในการทำงาน: 33.4 ถึง 40 ซม. (13⅛ ถึง 15¾ นิ้ว) โปรดดู รูป 27
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเหล็กต่อพ่วงไม่รบกวนเพลาขับ PTO
ใช้มือจับแม่แรงยกหรือลดระดับแม่แรงลากจูง และจัดตำแหน่งเหล็กลากจูงให้ตรงกับเหล็กต่อพ่วงหรือหัวลากแบบตะขอต่อพ่วง (รูป 28)
ยกระดับหัวลาก 3 จุดจนสุด โปรดดูคู่มือผู้ใช้ของรถลาก
Note: ล็อกหัวลาก 3 จุด หากติดตั้งอยู่
จัดตำแหน่งเหล็กต่อพ่วงหรือหัวลากแบบตะขอต่อพ่วงของรถลากให้ตรงกับเหล็กลากจูงของเครื่องตัดหญ้า (รูป 28)
ดันคันเปลี่ยนเกียร์ไปที่ตำแหน่ง เกียร์ว่าง ดึงเบรกมือ ดับเครื่องยนต์ และรอให้ชิ้นส่วนเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดนิ่ง
ยึดเหล็กลากจูงดังนี้:
หากเครื่องตัดหญ้าใช้เหล็กลากจูงแบบหมุด ให้สอดหมุดหัวลากผ่านรูในเหล็กลากจูงและเหล็กต่อพ่วง และยึดหมุดด้วยปิ๊นตัวอาร์ (รูป 29)
หากรถลากใช้หัวลากแบบตะขอต่อพ่วง ให้ปิดและยึดหัวลากให้แน่นหนา
ยกแม่แรงจนสุด (รูป 29)
ถอดหมุดที่ยึดแม่แรงเข้ากับเหล็กลากจูง หมุนแม่แรงในแนวนอน และยึดแม่แรงเข้ากับเหล็กลากจูงด้วยหมุด (รูป 29)
จัดตำแหน่งข้อต่อสวมเร็วของเพลาขับ PTO ให้ตรงกับเพลาเอาต์พุตของ PTO (รูป 30)
ดึงปลอกล็อกของข้อต่อสวมเร็วไปข้างหลัง (รูป 31)
ขณะที่ดึงปลอกล็อกไปข้างหลัง ดึงก้ามปูเพลาขับ PTO ไปข้างหน้าและเลื่อนเบ้าของข้อต่อทับกับร่องของเพลาเอาต์พุต PTO (รูป 31)
ตรวจสอบให้ล็อกของข้อต่อสวมเร็วเข้าที่ลงในร่องของเพลาเอาต์พุต PTO อย่างแน่นหนา
แผงป้องกันจะต้องอยู่เหนือก้ามปูเพลาขับ (รูป 31)
ติดโซ่หน่วงเหนี่ยวเข้ากับส่วนติดแน่นบนรถลาก (รูป 32)
Important: โซ่หน่วงเหนี่ยวจะต้องมีการหย่อนเพียงพอ เพื่อให้คุณเลี้ยวอุปกรณ์ได้ทั้งสองทิศทาง
หาส่วนต่อถอดเร็วสำหรับวงจรยกและลดระดับอุปกรณ์ต่อพ่วงท้ายสำหรับรถลาก
ถอดฝาครอบกันฝุ่นจากส่วนต่อถอดเร็วของรถลาก
ถอดฝาครอบกันฝุ่นสีดำออกจากส่วนต่อถอดเร็วของท่ออ่อนยืดของกระบอกสูบของเครื่องตัดหญ้า
ต่อส่วนต่อเร็วของท่ออ่อนยืดของกระบอกสูบเข้ากับข้อต่อถอดเร็วของวงจรลดระดับอุปกรณ์ต่อพ่วงท้าย (รูป 33)
ถอดฝาครอบกันฝุ่นสีแดงออกจากส่วนต่อถอดเร็วของท่ออ่อนหดของกระบอกสูบของเครื่องตัดหญ้า
ต่อส่วนต่อถอดเร็วของท่ออ่อนหดของกระบอกสูบเข้ากับข้อต่อถอดเร็วของวงจรยกอุปกรณ์ต่อพ่วงท้าย
ร้อยเชือกล็อกฐานจากโครงนำท่ออ่อนไปทางที่นั่งคนขับ (รูป 34)
Important: คุณจะต้องหย่อนเชือกไว้พอสมควรเพื่อให้เครื่องตัดหญ้าเลี้ยวขวาและซ้ายได้หลังรถลากโดยไม่เพิ่มความตึงกับเชือก แต่ไม่สัมผัสกับเพลาขับ PTO
ผูกเชือกเข้ากับส่วนประกอบแชสซีที่ติดแน่นบนรถลาก เช่น ท่อ ROPS (รูป 34)
Important: อย่าผูกเชือกล็อกฐานเข้ากับที่นั่ง พวงมาลัย หรือมือจับของส่วนควบคุม
นำแท่นขัดล้อออกจากเครื่องตัดหญ้า
Note: ดูด้านซ้ายและขวาของอุปกรณ์จากตำแหน่งปกติในการควบคุมเครื่อง
เจ้าของ/ผู้ควบคุมสามารถป้องกันอุบัติเหตุได้ และยังเป็นผู้รับผิดชอบอุบัติเหตุที่อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินด้วย
สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันดวงตา กางเกงขายาว รองเท้ากันลื่นที่แน่นหนา และอุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน ถ้าผมยาวให้มัดไปข้างหลังและอย่าสวมใส่เสื้อผ้าหลวมหรือเครื่องประดับที่หย่อน
อย่าใช้งานอุปกรณ์ขณะป่วย เหนื่อยล้า หรืออยู่ภายใต้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือยาเสพติด
ห้ามนำเครื่องตัดหญ้าไปขนส่งผู้โดยสารโดยเด็ดขาด กันคนโดยรอบและสัตว์เลี้ยงออกห่างจากอุปกรณ์ขณะทำงาน
ใช้อุปกรณ์เฉพาะเมื่อทัศนวิสัยดีเท่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงหลุมบ่อหรืออันตรายที่มองไม่เห็น
ก่อนสตาร์ทเครื่อง ระบบขับเคลื่อนทั้งหมดจะต้องอยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง PTO ต้องปลดอยู่ ดึงเบรกมือ และคุณอยู่ในตำแหน่งใช้งาน
เก็บมือและเท้าให้ห่างจากชิ้นส่วนหมุน อยู่ห่างจากช่องระบายเศษหญ้าตลอดเวลา
มองไปข้างหลังและมองลงก่อนถอยอุปกรณ์เพื่อให้แน่ใจว่าเส้นทางโล่ง
ใช้ความระมัดระวังเมื่อเข้าใกล้มุมอับ พุ่มไม้ ต้นไม้ หรือวัตถุอื่นๆ ที่อาจขัดขวางการมองเห็น
อย่าใช้งาน PTO ขณะยกฐานขึ้นเหนือตำแหน่งหยุดกลางทางส่วนบน
หยุดเครื่องตัดหญ้าถ้าไม่ได้กำลังตัดหญ้า
หยุดอุปกรณ์ ดึงเบรกมือ ดับเครื่องยนต์ ดึงกุญแจออก และรอให้ชิ้นส่วนเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดก่อนที่จะตรวจสอบอุปกรณ์ต่อพ่วงหลังจากมีการชนวัตถุ หรือหากอุปกรณ์สั่นผิดปกติ ซ่อมแซมความเสียหายทั้งหมดก่อนกลับไปใช้งานต่อ
ชะลอความเร็วลง และขับอุปกรณ์ด้วยความระมัดระวังขณะเลี้ยว รวมถึงตอนข้ามถนนและทางเดิน ให้ทางแก่ทางเอกก่อนเสมอ
ลดความเร็วบนถนนและพื้นผิวขรุขระ
เครื่องตัดหญ้ามีน้ำหนักมาก เมื่อติดตั้งเข้ากับรถลากและอยู่ในตำแหน่งยก น้ำหนักของเครื่องตัดหญ้าจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคง การเบรก และการบังคับเลี้ยว ดังนั้น ให้ใช้ความระมัดระวังขณะขนส่งอุปกรณ์ระหว่างพื้นที่ทำงานแต่ละแห่ง
ห้ามปล่อยอุปกรณ์ที่ติดเครื่องทิ้งไว้โดยไม่มีผู้ดูแล
ก่อนออกจากตำแหน่งคนขับ (รวมถึงการปรับความสูงในการตัด) ให้ดำเนินการดังนี้:
ตรวจสอบให้แน่ใจว่า PTO ปลดอยู่
จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ
ดึงเบรกมือ
ลดระดับฐานเครื่องตัดหญ้าลงมา
ดับเครื่องยนต์และดึงกุญแจออก
รอให้ชิ้นส่วนเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดนิ่งก่อนผละออกจากอุปกรณ์
อย่าใช้อุปกรณ์เมื่อมีความเสี่ยงที่จะเกิดฟ้าผ่า
ใช้อุปกรณ์เสริม อุปกรณ์ต่อพ่วง และอะไหล่เปลี่ยนทดแทนที่ผ่านการรับรองจากบริษัท Toro® เท่านั้น
สำหรับการแยกส่วนหรือซ่อมแซมชิ้นส่วนทั้งหมดของเพลาขับ PTO เหล็กกล้า (ท่อ แบริ่ง ข้อต่อ เป็นต้น) โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่าย Toro ที่ได้รับอนุญาต การถอดส่วนประกอบไปซ่อมแซมและประกอบใหม่อาจทำให้ชิ้นส่วนบางอย่างชำรุด ถ้าไม่ดำเนินการด้วยเครื่องมือพิเศษโดยช่างที่ผ่านการฝึกอบรม
ห้ามใช้งานเครื่องตัดหญ้าถ้าแผงกั้นของ PTO หรือเพลาขับหายไป
ใช้ความระมัดระวังขณะเลี้ยวอุปกรณ์ เพื่อให้ล้อรถลากไม่สัมผัสกับเพลาขับ PTO
ยึดท่ออ่อนไฮดรอลิก สายไฟ เชือก และสิ่งอื่น ๆ ให้แน่นหนา อย่าให้สัมผัสกับปลอกครอบเพลาขับ PTO
ทางลาดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการสูญเสียการควบคุมและอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ซึ่งส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงและการเสียชีวิตได้ คุณต้องดูแลรับผิดชอบความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์บนพื้นลาดเอียง การใช้งานอุปกรณ์บนพื้นลาดเอียงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ตรวจสอบและทำความเข้าใจการใช้งานบนทางลาดในคู่มือและบนรถลาก
ประเมินสภาพสถานที่เพื่อพิจารณาว่าทางลาดปลอดภัยสำหรับการใช้งานอุปกรณ์หรือไม่ รวมทั้งสำรวจสถานที่ ใช้เหตุและผลและวิจารณญาณที่ดีขณะสำรวจ
ตรวจสอบคำแนะนำสำหรั บการใช้งานอุปกรณ์บนทางลาดด้า นล่างและพิจารณาว่าคุณ สามารถใช้งานอุปกรณ์ในบริเวณดังกล าวในสภาวะการทำงานของว ันนั้นได้หรือไม่ สภาพเส้นทางที่เ ลี่ยนแปลงไปอาจจะส่งผลต่อการทำงานของอุปกรณ์บนพื้นลาดได้
หลีกเลี่ยงการสตาร์ท จอด หรือเลี้ยวอุปกรณ์บนทางลาด หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนความเร็วหรือทิศทางอย่างฉับพลัน ให้เลี้ยวช้าๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป
อย่าใช้งานอุปกรณ์ในสภาวะที่แรงยึดเกาะ การเลี้ยว หรือความมั่นคงของอุปกรณ์ไม่แน่นอน
เคลื่อนย้ายหรือทำสัญลักษณ์อุปสรรคต่างๆ เช่น หลุมบ่อ แอ่ง เนิน หิน หรืออันตรายอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ หญ้าสูงอาจทำให้มองไม่เห็นสิ่งกีดขวาง ทางที่ไม่ราบเรียบอาจทำให้อุปกรณ์พลิกคว่ำได้
การใช้งานบนหญ้าเปียก บนพื้นลาด หรือบนเนิน อาจส่งผลให้อุปกรณ์สูญเสียการควบคุมได้ ล้อขับที่สูญเสียแรงยึดเกาะอาจส่งผลให้เกิดการไถล และไม่สามารถเบรกหรือเลี้ยวได้
ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อใช้งานอุปกรณ์ใกล้ทางชัน คลอง ทำนบ อันตรายจากน้ำ หรืออันตรายอื่นๆ อุปกรณ์อาจพลิกคว่ำฉับพลันได้ หากล้อเกยข้ามขอบทางหรือขอบทางพังทลาย ดังนั้นควรกำหนดพื้นที่ปลอดภัยระหว่างอุปกรณ์กับอันตรายใดๆ เตรียมไว้
ตรวจสอบหาสิ่งที่อาจก่อให้เกิดอันตรายบริเวณด้านล่างของทางลาด หากมีอันตรายอยู่ ให้ตัดหญ้าบนทางลาดด้วยเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าแบบเดินตาม
ถ้าทำได้ ควรวางชุดตัดหญ้าไว้ต่ำลงกับพื้นขณะใช้งานอุปกรณ์บนทางลาด การยกชุดตัดหญ้าขณะใช้งานบนทางลาดอาจทำให้อุปกรณ์ไม่มั่นคงได้
ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษกับอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น เพราะอุปกรณ์เหล่านี้อาจทำให้สมดุลของอุปกรณ์เปลี่ยนแปลงและทำให้สูญเสียการควบคุมได้ เข้าเกียร์อุปกรณ์ตลอดเวลาขณะลงจากทางลาด อย่าทิ้งตัวลงจากเนิน (เฉพาะอุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยเกียร์เท่านั้น)
ตรวจสอบให้แน่ใจว่า PTO อยู่ในตำแหน่ง ปิด โปรดดูคู่มือผู้ใช้ของรถลาก
ขับเครื่องตัดหญ้าไปยังพื้นที่ราบที่กว้างพอสำหรับรองรับฐานเครื่องตัดหญ้า
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีคนอยู่โดยรอบ
ขยับส่วนควบคุมวงจรของอุปกรณ์ต่อพ่วงท้ายไปยังตำแหน่งยก โปรดดูคู่มือผู้ใช้ของรถลาก
ฐานเครื่องตัดหญ้าอาจยกขึ้นเล็กน้อย และแรงกดบนที่ล็อกฐานจะลดลง
ดึงและจับเชือกล็อกฐานไว้ (รูป 35)
ที่ล็อกฐานปลดออก
ขยับส่วนควบคุมวงจรของอุปกรณ์ต่อพ่วงท้ายไปยังตำแหน่งลดระดับ โปรดดูคู่มือผู้ใช้ของรถลาก
ฐานเครื่องตัดหญ้าลดระดับลงบนพื้น (รูป 36)
เมื่อฐานลดลงมาบนพื้นจนสุด ให้ปล่อยเชือกและส่วนควบคุมอุปกรณ์ต่อพ่วง
ขยับส่วนควบคุมวงจรของอุปกรณ์ต่อพ่วงท้ายไปยังตำแหน่งลอย โปรดดูคู่มือผู้ใช้ของรถลาก
ใช้ขั้นตอนนี้เพื่อยกฐานเครื่องตัดหญ้าขึ้นเล็กน้อยขณะเลี้ยวอุปกรณ์เมื่อสุดเส้นทางการตัดหญ้า
สำหรับคำแนะนำในการใช้ส่วนควบคุมอุปกรณ์ต่อพ่วงท้าย โปรดดูคู่มือผู้ใช้ของรถลาก
ดันส่วนควบคุมวงจรอุปกรณ์ต่อพ่วงท้ายไปยังตำแหน่ง ยก
ฐานยกขึ้น และหมุดยกแตะกับส่วนหยุดยกขึ้นกลางทางของที่ล็อกฐาน
Note: อย่าดึงเชือกล็อกฐาน
เลี้ยวรถลากและจัดตำแหน่งให้ตรงกับทางตัดหญ้าเส้นถัดไป
ดันส่วนควบคุมวงจรอุปกรณ์ต่อพ่วงท้ายไปยังตำแหน่ง ลดระดับ
สำหรับคำแนะนำในการใช้ส่วนควบคุม PTO และอุปกรณ์ต่อพ่วงท้าย โปรดดูคู่มือผู้ใช้ของรถลาก
Note: หากที่ล็อกฐานเครื่องตัดหญ้าส่วนท้ายไม่ล็อกเข้ากับหมุดฐาน ให้ปรับความสูงของที่ล็อกฐาน โปรดดู การปรับที่ล็อกฐานเครื่องตัดหญ้าส่วนท้าย
ขยับเครื่องตัดหญ้าไปยังพื้นที่ราบเรียบ
ปิด PTO
ดึงและจับเชือกล็อกฐานไว้ (รูป 38)
ดันส่วนควบคุมวงจรอุปกรณ์ต่อพ่วงท้ายไปยังตำแหน่ง ยกขึ้น
ฐานเครื่องตัดหญ้ายกขึ้นไปยังตำแหน่ง ขนส่ง (รูป 39)
เมื่อฐานยกขึ้นจนสุด ปล่อยเชือกและส่วนควบคุมอุปกรณ์ต่อพ่วง
ที่ล็อกฐานล็อกเข้ากับหมุดฐาน (รูป 40)
ดันส่วนควบคุมวงจรอุปกรณ์ต่อพ่วงท้ายไปยังตำแหน่ง ลดระดับ จนกว่าที่ล็อกฐานจะรองรับน้ำหนักของฐาน
หากติดตั้งเครื่องตัดหญ้าเข้ากับรถลาก ให้ดำเนินการดังนี้:
ตรวจสอบให้แน่ใจว่า PTO ปลดอยู่
หากฐานเครื่องตัดหญ้าอยู่ในตำแหน่งขนส่ง ให้ลดระดับฐานลงมา โปรดดู การลดระดับฐานเครื่องตัดหญ้าลงมาจากตำแหน่งขนส่ง
ดึงเบรกมือ ดับเครื่องยนต์ ดึงกุญแจออก และรอให้ชิ้นส่วนเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดนิ่ง
กำหนดความสูงที่คุณต้องการใช้ตัดหญ้า
คลายน็อตล็อก 4 ตัวที่ยึดตัวปรับความสูงในการตัด 4 ตัว (รูป 41) ของฐานเครื่องตัดหญ้า
ขณะทำงานกับ 1 ในลูกกลิ้งฐาน หมุนสกรูหัวจมของตัวปรับเพื่อยกหรือลดระดับเครื่องตัดหญ้าจนกว่าตัวชี้ตรงกับความสูงในการตัดหญ้าที่คุณกำหนดไว้ในขั้นตอนที่ 2
ขันน็อตล็อกสำหรับตัวปรับความสูงในการตัด 2 ตัวให้แน่น
ทำซ้ำขั้นตอน 4 และ 5 สำหรับตัวปรับความสูงในการตัดที่ลูกกลิ้งอื่น
ทำซ้ำขั้นตอน 3 ถึง 6 สำหรับฐานอื่นๆ
เปลี่ยนเกียร์รถลากเป็น เกียร์ต่ำ หรือ ช่วงต่ำ
ขับอุปกรณ์ช้า ๆ เพื่อเตรียมเลี้ยวหักศอก
Important: อย่าให้รถลากทำมุมกับเครื่องตัดหญ้าเกิน 75°
ขณะที่คุณหักเลี้ยว คอยดูระยะห่างระหว่างล้อของรถลากกับชิ้นส่วนของเครื่องตัดหญ้า (รูป 43)
Note: หากล้ออยู่ใกล้กับเครื่องตัดหญ้ามากเกินไป ค่อยๆ เลี้ยว
จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ ดึงเบรกมือ ดับเครื่องยนต์ ดึงกุญแจออก และรอให้การเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดนิ่ง ก่อนจะลุกออกจากอุปกรณ์
อย่าเหยียบบน เหนือ หรือใต้เพลาขับ
อย่าใช้โซ่หน่วงเหนี่ยวของปลอกครอบเพลา PTO เพื่อรองรับน้ำหนักเพลาขณะขนส่งหรือจัดเก็บเครื่องตัดหญ้า
อย่างวางเพลา PTO ลงบนพื้น
อย่าปล่อยให้ปลอกครอบเพลา PTO แยกออกจากกัน
ดูแลรักษาให้ชิ้นส่วนทั้งหมดของอุปกรณ์มีสภาพดีและทำงานได้ตามปกติ และขันชิ้นส่วนทั้งหมดให้แน่นหนา
เปลี่ยนสติกเกอร์ทั้งหมดที่สึกหรอ ชำรุด หรือหายไป
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
หลังจากการใช้งานแต่ละครั้ง |
|
ยกฐานเครื่องตัดหญ้าขึ้นและล้างให้สะอาด
Important: ยกและใส่สลักฐานก่อนจะบรรทุกเครื่องตัดหญ้าขึ้นหรือลงจากรถพ่วง
ใช้ความระมัดระวังเมื่อบรรทุกรถขึ้นหรือลงจากรถพ่วงหรือรถบรรทุก
ใช้ทางลาดเต็มความกว้างสำหรับบรรทุกรถขึ้นรถพ่วงหรือรถบรรทุก
โปรดดูตำแหน่งจุดผูกยึดของอุปกรณ์จากคู่มือผู้ใช้ของแชสซีรถลากและรถลาก
ขับรถลากขึ้นทางลาด
ดับเครื่องยนต์ ดึงกุญแจออก และดึงเบรกมือ
ลดระดับแม่แรงลง
ผูกยึดอุปกรณ์ใกล้กับล้อด้วยสายรัด โซ่ หรือลวดเคเบิล
Note: โปรดดูข้อกำหนดในท้องถิ่นเกี่ยวกับการผูกยึด
ยึดล้อของอุปกรณ์เข้ากับกระบะของรถพ่วงหรือรถบรรทุกให้แน่น
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเพลาขับ PTO ต่ออยู่กับรถลากหรือยึดเข้ากับเหล็กลากจูงของเครื่องตัดหญ้าอย่างแน่นหนา
หากคุณเสียบกุญแจทิ้งไว้ในสวิตช์ อาจมีคนสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ตั้งใจและทำให้คุณหรือคนที่อยู่รอบข้างบาดเจ็บได้
ดึงกุญแจออกจากสวิตช์ก่อนการบำรุงรักษา
หากฐานเครื่องตัดหญ้ายกขึ้นแต่ไม่ใส่สลัก ฐานอาจลดระดับลงมาอย่างไม่คาดคิด และทำให้คุณหรือคนรอบข้างบาดเจ็บได้
ยกฐานขึ้นจนสุด และตรวจดูให้แน่ใจว่าหมุดบนแขนยกทั้งหมดเกี่ยวกับสลักดีแล้ว
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
หลังจาก 50 ชั่วโมงแรก |
|
ก่อนการใช้งานแต่ละครั้งหรือทุกวัน |
|
หลังจากการใช้งานแต่ละครั้ง |
|
ทุก 50 ชั่วโมง |
|
ทุก 500 ชั่วโมง |
|
ก่อนจัดเก็บ |
|
ทุกปี |
|
ยกเครื่องตัดหญ้าที่กึ่งกลางแกนดังแสดงใน รูป 45
ใช้ขาตั้งแม่แรงรองรับน้ำหนักเครื่องตัดหญ้า
จัดตำแหน่งสลักของฝาครอบฐานเครื่องตัดหญ้าให้ตรงกับรูในฐานเครื่องตัดหญ้า (รูป 47)
ประกอบฝาครอบฐานเข้ากับฐานเครื่องตัดหญ้า (รูป 47)
ยึดฝาครอบให้แน่น (รูป 47) ตามขั้นตอนดังนี้:
เครื่องตัดหญ้าที่ไม่ใช่ CE: หมุนลูกบิดผ่านฝาครอบและเข้าไปในฐานเครื่องตัดหญ้า และขันลูกบิดให้แน่น
เครื่องตัดหญ้า CE: หมุนสลักเกลียวเข้าไปในฐานเครื่องตัดหญ้า และขันสลักเกลียวให้แน่น
ยึดสลัก 3 ตัวของฝาครอบเข้ากับฐานเครื่องตัดหญ้าให้แน่น (รูป 47)
ทำซ้ำขั้นตอน 1 ถึง 4 กับฝาครอบอันอื่น ๆ ที่ถอดออกมา (รูป 47)
จาระบีลิเธียมเบอร์ 2
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
ก่อนการใช้งานแต่ละครั้งหรือทุกวัน |
|
ใช้จาระบีที่กำหนดอัดเข้าไปในรูอัดจาระบี 3 จุดที่ปลายด้านหน้าของเพลาขับ PTO (รูป 48)
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
ทุก 50 ชั่วโมง |
|
อัดจาระบีที่กำหนดเข้าในรูอัดจาระบี 7 จุดสำหรับข้อต่อเพลาขับตัว U ดังแสดงใน รูป 50
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
ทุก 50 ชั่วโมง |
|
อัดจาระบีที่กำหนดเข้าในรูอัดจาระบี 6 จุดสำหรับข้อต่อเลื่อนของปลอกครอบเพลาขับดังแสดงใน รูป 51
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
ทุก 50 ชั่วโมง |
|
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
ทุก 50 ชั่วโมง |
|
อัดจาระบีที่กำหนดเข้าในรูอัดจาระบีที่แกนหมุน 3 แกนที่ฐานเครื่องตัดหญ้าแต่ละส่วน (รูป 53)
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
ทุก 50 ชั่วโมง |
|
อัดจาระบีที่กำหนดเข้าในรูอัดจาระบีที่ตัวปรับความตึง 2 จุดของฐานเครื่องตัดหญ้าแต่ละส่วน
วัสดุที่ลูกค้าต้องจัดหา: น้ำยาซีลเกลียว PTFE และปั๊มมือขนาดเล็ก
น้ำมัน Toro Premium Tractor
น้ำมันไฮดรอลิกสำหรับรถฉุดลาก Mobilfluid™ 424
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
ทุก 50 ชั่วโมง |
|
ดึงก้านวัดออกจากช่องใส่ก้านวัดที่ด้านบนสุดของกระปุกเกียร์ตรงกลาง (รูป 57 หรือ รูป 58)
ตรวจสอบระดับน้ำมันที่เห็นบนก้านวัด (รูป 57 หรือ รูป 58)
ระดับน้ำมันควรอยู่ระหว่างขีดเต็มกับขีดเติมของก้านวัด
Note: เพิ่มน้ำมันหล่อลื่นตามที่จำเป็น เพื่อให้ระดับเพิ่มขึ้นมาจนอยู่ระหว่างขีดเต็มกับขีดเติม โปรดดู การเติมน้ำมันลงในกระปุกเกียร์ของฐาน หรือ การเติมน้ำมันกระปุกเกียร์ตรงกลาง
เช็ดเกลียวของก้านวัดและจุกเติม และทาน้ำยาซีลเกลียว PTFE ที่เกลียว
หมุนก้านวัดลงในช่องเติมและขัดก้านวัดให้แน่น (รูป 57 หรือ รูป 58)
ทำซ้ำขั้นตอน 1 ถึง 4 สำหรับกระปุกเกียร์ของฐาน
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
หลังจาก 50 ชั่วโมงแรก |
|
ทุกปี |
|
ความจุน้ำมันของกระปุกเกียร์ตรงกลาง: 2.48 ลิตร (84 ออนซ์)
ดึงก้านวัดออกจากช่องใส่ก้านวัดที่ด้านบนสุดของกระปุกเกียร์ตรงกลาง และเช็ดก้านวัดให้สะอาด (รูป 61)
ดึงจุกเติมออกจากช่องเติมที่ด้านบนสุดของกระปุกเกียร์ (รูป 61)
เติมน้ำมันเกียร์ที่กำหนด 2.48 ลิตร (84 ออนซ์) ลงในกระปุกเกียร์ผ่านช่องเติม (รูป 61)
หมุนก้านวัดลงในช่อง ดึงก้านวัดออก และตรวจสอบระดับน้ำมันหล่อลื่น (รูป 61)
ระดับน้ำมันควรอยู่ระหว่างขีดเต็มกับขีดเติมของก้านวัด
Note: เติมน้ำมันหล่อลื่นเพิ่มตามที่จำเป็น จนระดับอยู่ระหว่างขีดเต็มกับขีดเติม
เช็ดเกลียวของก้านวัดและจุกเติม และทาน้ำยาซีลเกลียว PTFE ที่เกลียว
หมุนก้านวัดลงในช่องเติมและขัดก้านวัดให้แน่น (รูป 61)
ประกอบจุกเติมเข้ากับช่องเติมและขันจุกให้แน่น (รูป 61)
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
หลังจาก 50 ชั่วโมงแรก |
|
ทุกปี |
|
ความจุน้ำมันของกระปุกเกียร์ของฐาน: 1.06 ลิตร (36 ออนซ์)
เติมน้ำมันเกียร์ที่กำหนด 1.06 ลิตร (36 ออนซ์) ลงในกระปุกเกียร์ผ่านช่องใส่ก้านวัด (รูป 63)
หมุนก้านวัดลงในช่อง ดึงก้านวัดออก และตรวจสอบระดับน้ำมันหล่อลื่น (รูป 63)
ระดับน้ำมันควรอยู่ระหว่างขีดเต็มกับขีดเติมของก้านวัด
Note: เติมน้ำมันหล่อลื่นเพิ่มตามที่จำเป็น จนระดับอยู่ระหว่างขีดเต็มกับขีดเติม
เช็ดเกลียวของก้านวัด และทาน้ำยาซีลเกลียว PTFE ที่เกลียว
หมุนก้านวัดลงในช่องเติมและขัดก้านวัดให้แน่น (รูป 63)
ทำซ้ำขั้นตอน 1 ถึง 4 สำหรับกระปุกเกียร์ของฐานอื่น ๆ
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
หลังจาก 50 ชั่วโมงแรก |
|
สายพานขับใบมีดที่ถูกดึงให้ตึงโดยรอกดันสายพานแบบมีสปริง นั้นมีความทนทาน อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้งานหลายชั่วโมง สายพานจะมีสัญญาณการสึกหรอ สัญญาณของสายพานที่สึกหรอ ได้แก่ เสียงเอี๊ยดอ๊าดขณะหมุน ใบมีดตัดหญ้าลื่นขณะตัดหญ้า ขอบสายพานรุ่ย สายพานมีรอยไหม้และรอยแตก และคุณภาพการตัดแย่ลง เปลี่ยนสายพาน ถ้าคุณสังเกตเห็นอาการใดๆ เหล่านี้
ถอดฝาครอบฐานเครื่องตัดหญ้า โปรดดู การถอดฝาครอบฐาน
ตรวจสอบสายพานทั้งสั้นและยาวเพื่อหาร่องรอยการชำรุดหรือการสึกหรอมากเกินไป
เปลี่ยนสายพานที่ชำรุดหรือสึกหรอ โปรดดู การเปลี่ยนสายพานเครื่องตัดหญ้า
ติดตั้งฝาครอบฐาน โปรดดู การติดตั้งฝาครอบฐาน
Note: คุณต้องถอดสายพานยาวออกเพื่อเปลี่ยนเป็นสายพานสั้น
ถอดฝาครอบสายพานออก โปรดดู การถอดฝาครอบฐาน
ใช้ด้ามขันบล็อกหรือเครื่องมือที่คล้ายกันหมุนตัวปรับความตึงสายพานสำหรับสายพานยาวในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา และเลื่อนสายพานออกจากรอกตัวปรับความตึง (รูป 65)
เลื่อนสายพานยาวออกจากรอกขับ รอกแกนหมุนตรงกลาง และรอกแกนหมุนด้านขวา (รูป 65)
ถอดสายพานออกจากเครื่องตัดหญ้า
Note: คุณอาจต้องหมุนสายพานขณะที่ถอดออกจากรอกแกนหมุนตรงกลาง
ถอดฝาครอบสายพานออก โปรดดู การถอดฝาครอบฐาน
ให้ถอดสายพานยาวออก ถ้ามีติดตั้งอยู่ โปรดดู การถอดสายพานยาว
ใช้ด้ามขันบล็อกหรือเครื่องมือที่คล้ายกันหมุนตัวปรับความตึงสายพานสำหรับสายพานสั้นในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา และเลื่อนสายพานออกจากรอกตัวปรับความตึง (รูป 66)
เลื่อนสายพานสั้นออกจากรอกขับ รอกแกนหมุนตรงกลาง และรอกแกนหมุนด้านขวา
ถอดสายพานออกจากเครื่องตัดหญ้า
Note: คุณอาจต้องหมุนสายพานขณะที่ถอดออกจากรอกแกนหมุนตรงกลาง
คล้องสายพานยาวรอบ ๆ รอกขับ ร่องบนของรอกแกนหมุนตรงกลาง และรอกแกนหมุนด้านขวา (รูป 68)
ใช้ด้ามขันบล็อกหรือเครื่องมือที่คล้ายกันหมุนตัวปรับความตึงสายพานในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา และคล้องสายพานไว้บนรอกตัวปรับความตึง (รูป 68)
ติดตั้งฝาครอบฐาน โปรดดู การติดตั้งฝาครอบฐาน
ดูแลรักษาความคมของใบมีดตลอดฤดูกาลตัด เพราะใบมีดที่คมจะตัดหญ้าได้สะอาดโดยไม่ฉีกหรือกระชากใบหญ้า การฉีกและกระชากใบหญ้าทำให้ขอบใบหญ้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ซึ่งทำให้หญ้าโตช้าและเป็นโรคได้ง่าย
ตรวจสอบใบมีดทุกวันเพื่อดูความคม และหาการสึกหรอหรือการชำรุด ลับคมใบมีดตามที่จำเป็น หากใบมีดชำรุดหรือสึกหรอ ให้เปลี่ยนทันทีด้วยใบมีดอะไหล่ของแท้จาก Toro
ใบมีดของเครื่องตัดหญ้ามีความคมและทำให้บาดเจ็บได้
สวมใส่ถุงมือหนังแบบหนาหรือถุงมือกันบาดขณะซ่อมบำรุงใบมีด
ใบมีดที่สึกหรือชำรุดอาจจะแตกออก และเศษใบมีดอาจกระเด็นเข้าหาคุณหรือผู้อื่น ส่งผลให้บาดเจ็บสาหัสหรือเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
ตรวจสอบใบมีดเป็นระยะว่ามีการสึกหรอหรือชำรุดหรือไม่
เปลี่ยนใบมีดที่สึกหรอหรือชำรุด
Note: คุณต้องติดตั้งเครื่องตัดหญ้าเข้ากับรถลากขณะซ่อมบำรุงใบมีดเครื่องตัดหญ้า
ปลด PTO ขยับอุปกรณ์ไปบนพื้นราบ และดึงเบรกมือ
ยกและยึดสลักฐานเครื่องตัดหญ้า ดับเครื่องยนต์ และดึงกุญแจออก (รูป 69)
จัดเรียงใบมีดเครื่องตัดหญ้าดังที่แสดงใน รูป 70
ทำความสะอาดข้างใต้ของฐานเครื่องตัดหญ้าบริเวณใกล้กับขอบตัดที่ส่วนท้ายของใบมีด (รูป 71)
ใช้เหล็กฉากวัดมุมวัดระยะห่างระหว่างบริเวณที่ทำความสะอาดของฐานกับปลายของขอบตัด (รูป 72)
จดบันทึกค่าที่วัดได้
หมุนใบมีด 180° (รูป 72)
วัดระยะห่างระหว่างบริเวณที่ทำความสะอาดของฐานกับปลายของขอบตัด (รูป 72)
จดบันทึกค่าที่วัดได้
หากส่วนต่างระหว่างค่าที่วัดได้ในขั้นตอนที่ 4 กับขั้นตอนที่ 6 เกิน 3 มม. (⅛ นิ้ว) แสดงว่าใบมีดงอ และคุณต้องเปลี่ยนใบมีด โปรดดู การถอดใบมีด และ การติดตั้งใบมีด
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 3 ถึง 5 กับใบมีดอื่นๆ ของฐานเครื่องตัดหญ้า หรือขั้นตอนที่ 1 ถึง 6 สำหรับฐานอื่น ๆ
ระยะการซ่อมบำรุง | ขั้นตอนการบำรุงรักษา |
---|---|
ก่อนการใช้งานแต่ละครั้งหรือทุกวัน |
|
ตรวจสอบขอบตัด (รูป 73) ถ้าขอบไม่คมหรือมีรอยบิ่น ให้ถอดออกและลับคมใบมีด โปรดดู การลับคมใบมีด
ตรวจสอบใบมีด โดยเฉพาะบริเวณส่วนโค้ง (รูป 73) หากคุณสังเกตเห็นการชำรุด การสึกหรอ หรือร่องในบริเวณนี้ (รูป 73) ให้เปลี่ยนไปใช้ใบมีดใหม่ทันที
หากปล่อยให้ใบมีดสึกหรอ จะทำให้เกิดร่องระหว่างส่วนโค้งและส่วนเรียบของใบมีดขึ้นได้ และสุดท้ายใบมีดอาจแตกหักและกระเด็นไปใต้ตัวเครื่อง จนทำให้คุณหรือผู้ที่อยู่รอบข้างบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตได้
ตรวจสอบใบมีดเป็นระยะว่ามีการสึกหรอหรือชำรุดหรือไม่
ห้ามพยายามดัดใบมีดที่งอให้ตรง หรือเชื่อมใบมีดที่หักหรือแตกร้าวโดยเด็ดขาด
เปลี่ยนใบมีดที่สึกหรอหรือชำรุด
จำเป็นต้องเปลี่ยนใบมีด หากไปชนกับวัตถุแข็ง หรือใบมีดเสียสมดุลหรืองอ เพื่อสมรรถนะสูงสุดและความปลอดภัยในการใช้งานอย่างต่อเนื่องของอุปกรณ์ โปรดใช้เฉพาะอะไหล่ทดแทนของแท้จาก Toro ใบมีดทดแทนที่ผลิตโดยผู้ผลิตรายอื่นอาจไม่สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัย
การสัมผัสใบมีดคมอาจทำให้บาดเจ็บสาหัสได้
สวมใส่ถุงมือหรือห่อขอบคมของใบมีดด้วยผ้าขี้ริ้ว
ขณะลับคมใบมีด ชิ้นส่วนของใบมีดอาจเหวี่ยงและก่อให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสได้
สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตาที่เหมาะสมขณะลับคมใบมีด
ลับคมขอบตัดที่ปลายทั้งสองด้านของใบมีด (รูป 75)
Note: รักษาองศาเดิมเอาไว้ ใบมีดจะยังคงสมดุลกัน ถ้าหากตะไบวัสดุออกจากขอบตัดเท่ากันทั้งสองด้าน
ตรวจสอบสมดุลของใบมีดโดยวางไว้บนแท่นวัดสมดุลใบมีด (รูป 76)
Note: หากใบมีดยังอยู่ในแนวนอนแสดงว่า ใบมีดสมดุลดีแล้วและสามารถใช้งานได้ ถ้าใบมีดไม่สมดุล ตะไบโลหะบางส่วนออกที่ปลายบริเวณส่วนโค้งเท่านั้น (รูป 77) ทำซ้ำขั้นตอนจนกว่าใบมีดจะสมดุล
โรงงานปรับตั้งการเอียงของฐานเครื่องตัดหญ้ามาให้แล้ว เพื่อให้ด้านหลังของฐานสูงกว่าด้านหน้า
การเตรียมปรับความเอียงของเครื่องตัดหญ้า
วัสดุที่ลูกค้าต้องเตรียม: บล็อกไม้ 51 มม. (2 นิ้ว)
สำหรับฐานเครื่องตัดหญ้าแต่ละส่วนที่คุณจะปรับความเอียงของเครื่องตัดหญ้า ให้เรียงใบมีดตัดหญ้าตรงกลางดังแสดงใน รูป 78
ลดระดับฐานเครื่องตัดหญ้าลงมาบนพื้น
วัสดุที่ลูกค้าต้องเตรียม: บล็อกไม้สำหรับคั่น 51 มม. (2 นิ้ว)
ทำงานที่ด้านหลังของฐานเครื่องตัดหญ้า ยกแผ่นปิดท้ายขึ้น และจัดเรียงบล็อกไม้ 51 มม. (2 นิ้ว) ไว้ระหว่างปลายส่วนท้ายของใบมีดตัดหญ้าตรงกลางกับพื้น (รูป 80)
คุณควรรู้สึกถึงแรงลากเล็กน้อยขณะดันบล็อกเข้าไประหว่างใบมีดกับพื้น
หากมีระยะห่างระหว่างใบมีดกับพื้นมากเกินไป ใช้ตัวปรับความสูงในการตัด 4 จุดเพื่อปรับลดระดับของฐานลงมา
หากคุณดันบล็อกไม้เข้าไประหว่างใบมีดกับพื้นไม่ได้ ใช้ตัวปรับความสูงในการตัด 4 จุดเพื่อปรับยกฐานขึ้น
วัดระยะห่างระหว่างด้านบนของบล็อกตัวปรับจนถึงพื้น (รูป 81)
หมุนตัวปรับความสูงในการตัดจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ดังนี้:
ระยะห่างระหว่างบล็อกความสูงในการตัดกับพื้นวัดได้เท่ากันทั้ง 4 จุด
บล็อกไม้เลื่อนเข้าไปได้พอดีระหว่างใบมีดตัดหญ้าตรงกลางกับพื้น
คลายสกรูหัวจม 2 ตัวที่ยึดตัวชี้เข้ากับบล็อกตัวปรับความสูงในการตัด จัดวางตัวชี้ไปที่ขีด 51 มม. (2 นิ้ว) บนสติกเกอร์ และขันสกรูให้แน่น (รูป 82)
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 3 ที่ตัวปรับความสูงในการตัดอื่นๆ
ที่ลูกกลิ้งท้าย ยกตัวปรับความสูงในการตัดด้านซ้ายและขวาไปที่ขีด 57 มม. (2¼ นิ้ว) บนสติกเกอร์ (รูป 83)
คลายสกรูหัวจมที่ยึดตัวชี้ 2 ตัวเข้ากับบล็อกตัวปรับความสูงในการตัด จัดวางตัวชี้ไปที่ขีด 51 มม. (2 นิ้ว) บนสติกเกอร์ และขันสกรูให้แน่น (รูป 84)
ขันน็อต 4 ตัวที่ยึดบล็อกตัวปรับความสูงในการตัด 4 จุด (รูป 82 และ รูป 84) สำหรับลูกกลิ้งหน้าและลูกกลิ้งท้ายจนได้แรงบิด 322 ถึง 396 นิวตันเมตร (238 ถึง 292 ฟุตปอนด์)
เมื่อสิ้นสุดฤดูการตัดหญ้า หรือเมื่อต้องจัดเก็บเครื่องตัดหญ้าไว้เป็นเวลานาน ให้ทำตามขั้นตอนการบำรุงรักษาเชิงป้องกันดังต่อไปนี้:
จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ ดึงเบรกมือ ดับเครื่องยนต์ ดึงกุญแจออก และรอให้การเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดนิ่ง ก่อนจะลุกออกจากอุปกรณ์
ทำความสะอาดสิ่งสกปรกหรือคราบที่อาจสะสมบนอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนเคลื่อนไหว
หล่อลื่นจุดอัดจาระบีทั้งหมด
ซ่อมสีบริเวณที่มีรอยถลอกบนพื้นผิวทาสี
เปลี่ยนสติกเกอร์ที่หายไปหรือชำรุด
ถ้าเป็นไปได้ จัดเก็บเครื่องตัดหญ้าไว้อาคารที่แห้งและปลอดภัย หากไม่มีพื้นที่จัดเก็บในอาคาร ให้คลุมอุปกรณ์ด้วยผ้าคลุมชนิดหนาหรือผ้าใบกันน้ำและยึดให้แน่นหนา