รถตัดหญ้าขับเคลื่อน 4 ล้อ Reelmaster® 7000-D
ข้อความสงวนสิทธิ์และข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบข้อบังคับ
ผลิตภัณฑ์นี้ได้มาตรฐานตามคำสั่งยุโรปทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูเอกสารรับรองมาตรฐาน (DOC) เฉพาะของผลิตภัณฑ์แยกต่างหาก
การใช้งานหรือการควบคุมอุปกรณ์นี้บนที่ดินที่ปกคลุมด้วยป่า พุ่มไม้ หรือหญ้าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายทรัพยากรสาธารณะแห่งแคลิฟอร์เนีย มาตรา 4442 หรือ 4443 ยกเว้นกรณีที่อุปกรณ์ติดตั้งเครื่องดักสะเก็ดไฟตามคำจำกัดความในมาตรา 4442 โดยต้องบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพดี หรือเป็นอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมา ติดตั้ง และบำรุงรักษาเพื่อให้ป้องกันการเกิดเพลิงไหม้
คู่มือเจ้าของเครื่องยนต์ที่แนบมาจัดทำขึ้นมาเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (EPA) ของสหรัฐอเมริกาและกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียว่าด้วยการควบคุมการปล่อยมลพิษของระบบไอเสีย การบำรุงรักษา และการรับประกัน อะไหล่ทดแทนสามารถสั่งซื้อได้จากผู้ผลิตเครื่องยนต์
 
แคลิฟอร์เนีย
 
ข้อเสนอที่ 65
 
ไอเสียจากเครื่องยนต์ดีเซลและสารประกอบบางส่วนเป็นสิ่งที่รัฐแคลิฟอร์เนียทราบว่าเป็นสาเหตุของมะเร็ง ความพิการแต่กำเนิด หรืออันตรายต่อระบบสืบพันธ์ุอื่น ๆ
 
ขั้วแบตเตอรี่ ขั้วไฟฟ้า และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยตะกั่วและสารประกอบตะกั่ว ซึ่งเป็นสารเคมีที่รัฐแคลิฟอร์เนียทราบว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งและเป็นอันตรายต่อระบบสืบพันธ์ุ โปรดล้างมือหลังจากการหยิบจับ
 
การใช้งานผลิตภัณฑ์นี้อาจนำไปสู่การสัมผัสสารเคมีที่รัฐแคลิฟอร์เนียทราบว่าเป็นสาเหตุของมะเร็ง ความพิการแต่กำเนิด หรืออันตรายต่อระบบสืบพันธ์ุอื่น ๆ
 
 
 
 
ข้อมูลเบื้องต้น
 

วัตถุประสงค์การใช้งาน

อุปกรณ์นี้คือเครื่องตัดหญ้าใบมีดพวงแบบนั่งขับ ซึ่งออกแบบมาสำหรับผู้ให้บริการมืออาชีพที่ต้องการนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ เหมาะสำหรับใช้ตัดหญ้าบนสนามที่มีการดูแลรักษาเป็นอย่างดีเป็นหลัก การใช้งานผลิตภัณฑ์นี้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้อาจเป็นอันตรายต่อคุณและคนรอบข้างได้
กรุณาอ่านเอกสารนี้อย่างละเอียดเพื่อศึกษาวิธีควบคุมและบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม และเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บและความเสียหายต่อผลิตภัณฑ์ คุณมีหน้าที่ใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้องและปลอดภัย

ขอความช่วยเหลือ

Graphic
G403715
โปรดเข้าไปที่เว็บไซต์ www.Toro.com เพื่อดูเอกสารความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และเอกสารฝึกอบรมการใช้งาน ข้อมูลอุปกรณ์เสริม ความช่วยเหลือเพื่อค้นหาตัวแทนจำหน่าย หรือลงทะเบียนผลิตภัณฑ์
หากคุณต้องการการซ่อมบำรุง อะไหล่แท้ของ Toro หรือข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อตัวแทนบริการที่ได้รับอนุญาตหรือฝ่ายบริการลูกค้าของ Toro และเตรียมหมายเลขรุ่นและหมายเลขซีเรียลของผลิตภัณฑ์ไว้ให้พร้อม ตัวเลขเหล่านี้อยู่บนป้ายซีเรียลของผลิตภัณฑ์ จดบันทึกหมายเลขในช่องว่างที่กำหนดให้
สำคัญ  
นอกจากนี้ คุณสามารถใช้มือถือสแกนรหัส QR บนสติกเกอร์หมายเลขซีเรียลได้ (ถ้ามี) เพื่อเข้าถึงข้อมูลการรับประกัน อะไหล่ และข้อมูลผลิตภัณฑ์อื่นๆ
 
หมายเลขรุ่น:
หมายเลขซีเรียล:

การใช้สัญลักษณ์ในคู่มือ

คู่มือฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และระบุข้อความความปลอดภัยที่แสดงด้วยสัญลักษณ์เตือนอันตราย ซึ่งบ่งบอกอันตรายที่อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงหรือเสียชีวิตหากคุณไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังที่แนะนำ
Graphic
G405934
คู่มือฉบับนี้ใช้คำ 2 คำในการเน้นข้อมูล สำคัญ เพื่อให้คุณใส่ใจศึกษาข้อมูลพิเศษเกี่ยวกับกลไกและ หมายเหตุ เพื่อเน้นข้อมูลทั่วไปที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ
คำเตือนอันตรายประเภทต่างๆ
สัญลักษณ์เตือนอันตรายในคู่มือเล่มนี้และที่แสดงไว้บนอุปกรณ์บ่งชี้ถึงข้อความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัย ซึ่งคุณจะต้องปฏิบัติตามเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
สัญลักษณ์เตือนอันตรายจะปรากฏอยู่เหนือข้อมูลที่เตือนคุณเกี่ยวกับการดำเนินการหรือสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย และตามมาด้วยคำว่า DANGER WARNING หรือ CAUTION
อันตราย
Danger บ่งชี้สถานการณ์ที่เกิดอันตรายขึ้นได้อย่างฉับพลัน ซึ่งหากไม่หลีกเลี่ยง จะส่งผลให้บาดเจ็บร้ายแรงหรือเสียชีวิต
 
คำเตือน
Warning บ่งชี้สถานการณ์ที่อาจเป็นอันตราย ซึ่งหากไม่หลีกเลี่ยง อาจส่งผลให้บาดเจ็บร้ายแรงหรือเสียชีวิต
 
ข้อควรระวัง
Caution บ่งชี้สถานการณ์ที่เกิดอันตรายขึ้นได้อย่างฉับพลัน ซึ่งหากไม่หลีกเลี่ยง อาจส่งผลให้บาดเจ็บเล็กน้อยหรือปานกลาง
 
 
 
 
ความปลอดภัย
 

ความปลอดภัยทั่วไป

การใช้งานหรือบำรุงรักษาอย่างไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดการบาดเจ็บ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยและสังเกตสัญลักษณ์เตือนอันตราย Imageได้แก่ ข้อควรระวัง คำเตือน หรืออันตราย ซึ่งเป็นคำแนะนำเพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคล การไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้อาจส่งผลให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้

ความปลอดภัยก่อนการใช้งาน

ความปลอดภัยด้านเชื้อเพลิง
  • โปรดใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งเมื่อจัดการกับน้ำมัน น้ำมันเป็นวัตถุติดไฟได้และละอองน้ำมันอาจระเบิดได้
  • ดับบุหรี่ ซิการ์ ไปป์ และแหล่งจุดไฟอื่นๆ ให้หมด
  • ใช้เฉพาะภาชนะบรรจุน้ำมันที่ผ่านการรับรองเท่านั้น
  • อย่าเปิดฝาถังเชื้อเพลิงหรือเติมถังเชื้อเพลิงในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงานหรือร้อนอยู่
  • อย่าเติมหรือระบายน้ำมันในพื้นที่อับ
  • อย่าจัดเก็บอุปกรณ์หรือภาชนะบรรจุน้ำมันในที่ที่มีเปลวไฟ ประกายไฟ หรือไฟนำร่อง เช่น บนเครื่องทำน้ำร้อน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ
  • หากน้ำมันหก อย่าพยายามสตาร์ทเครื่องยนต์ หลีกเลี่ยงการสร้างแหล่งจุดไฟจนกว่าละอองน้ำมันจะระเหยไป

ความปลอดภัยระหว่างการใช้งาน

ความปลอดภัยของระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ROPS)
  • อย่าถอดส่วนประกอบของ ROPS ออกจากอุปกรณ์
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเข็มขัดนิรภัยแน่นหนาและคุณปลดออกได้รวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน
  • คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่เสมอ
  • คอยระมัดระวังสิ่งกีดขวางเหนือศีรษะเพื่อไม่ให้ชน
  • ดูแลรักษา ROPS ให้อยู่ในสภาพดีพร้อมการทำงาน โดยตรวจสอบอย่างละเอียดเป็นครั้งคราวเพื่อหาความเสียหาย และตรวจเช็คตัวยึดให้ยึดแน่นหนา
  • เปลี่ยนส่วนประกอบ ROPS ที่ชำรุดทั้งหมด ห้ามซ่อมแซมหรือดัดแปลง
อุปกรณ์พร้อมโรลบาร์แบบพับได้
  • คาดเข็มขัดนิรภัยเสมอเมื่อยกโรลบาร์ขึ้น
  • ROPS เป็นอุปกรณ์นิรภัยที่สำคัญ โรลบาร์พับได้ควรอยู่ในตำแหน่งยกขึ้นและล็อกไว้ตลอดเวลา และคาดเข็มขัดนิรภัยเมื่อใช้งานอุปกรณ์ที่ยกโรลบาร์ขึ้น
  • ลดโรลบาร์พับได้ลงชั่วคราวเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น ไม่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยเมื่อพับโรลบาร์ลงมา
  • โปรดตระหนักว่าหากลดโรลบาร์ลง อุปกรณ์จะไม่มีการป้องกันการพลิกคว่ำ
  • ตรวจสอบบริเวณที่คุณจะตัดหญ้า และไม่พับโรลบาร์ลงเมื่อใช้งานในบริเวณที่มีทางลาด ทางชัน หรือแหล่งน้ำ
ความปลอดภัยบนทางลาด
  • ทางลาดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการสูญเสียการควบคุมและอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ซึ่งส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงและการเสียชีวิตได้ คุณต้องดูแลรับผิดชอบความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์บนพื้นลาดเอียง การใช้งานอุปกรณ์บนพื้นลาดเอียงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
  • ประเมินสภาพสถานที่เพื่อพิจารณาว่าทางลาดปลอดภัยสำหรับการใช้งานอุปกรณ์หรือไม่ รวมทั้งสำรวจสถานที่ ใช้เหตุและผลและวิจารณญาณที่ดีขณะสำรวจ
  • ดูคำแนะนำเกี่ยวกับทางลาดด้านล่างสำหรับการใช้งานอุปกรณ์บนทางลาด ก่อนจะใช้งานอุปกรณ์ ควรตรวจสอบสภาพของหน้างานเพื่อประเมินว่าคุณจะใช้งานอุปกรณ์ในสภาวะดังกล่าวและในบริเวณที่ต้องการได้หรือไม่ สภาพเส้นทางที่เปลี่ยนแปลงไปอาจจะส่งผลต่อการทำงานของอุปกรณ์บนพื้นลาดได้
    • หลีกเลี่ยงการสตาร์ท จอด หรือเลี้ยวอุปกรณ์บนทางลาด หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนความเร็วหรือทิศทางอย่างฉับพลัน ให้เลี้ยวช้าๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป
    • อย่าใช้งานอุปกรณ์ในสภาวะที่แรงยึดเกาะ การเลี้ยว หรือความเสถียรของอุปกรณ์ไม่แน่นอน
    • เคลื่อนย้ายหรือทำสัญลักษณ์อุปสรรคต่างๆ เช่น หลุมบ่อ แอ่ง เนิน หิน หรืออันตรายอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ หญ้าสูงอาจทำให้มองไม่เห็นสิ่งกีดขวาง ทางที่ไม่ราบเรียบอาจทำให้อุปกรณ์พลิกคว่ำได้
    • การใช้งานบนหญ้าเปียก บนพื้นลาด หรือบนเนิน อาจส่งผลให้อุปกรณ์สูญเสียการควบคุมได้
    • ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อใช้งานอุปกรณ์ใกล้ทางชัน คลอง ทำนบ อันตรายจากน้ำ หรืออันตรายอื่นๆ อุปกรณ์อาจพลิกคว่ำฉับพลันได้ หากล้อเกยข้ามขอบทางหรือขอบทางพังทลาย ดังนั้นควรกำหนดพื้นที่ปลอดภัยระหว่างอุปกรณ์กับอันตรายใดๆ เตรียมไว้
    • ตรวจสอบหาสิ่งที่อาจก่อให้เกิดอันตรายบริเวณด้านล่างของทางลาด หากมีอันตรายอยู่ ให้ตัดหญ้าบนทางลาดด้วยเครื่องตัดหญ้าแบบเดินตาม
    • ถ้าทำได้ ควรวางชุดตัดหญ้าไว้ต่ำลงกับพื้นขณะใช้งานอุปกรณ์บนทางลาด การยกชุดตัดหญ้าขณะใช้งานบนทางลาดอาจทำให้อุปกรณ์ไม่มั่นคงได้

ความปลอดภัยหลังจากการใช้งาน

ความปลอดภัยในการบำรุงรักษา

ความปลอดภัยของเครื่องยนต์
  • ดับเครื่องยนต์ก่อนตรวจสอบระดับน้ำมันหรือเติมน้ำมันลงในห้องข้อเหวี่ยง
  • อย่าเปลี่ยนความเร็วของตัวควบคุมความเร็วหรือเร่งรอบเครื่องมากเกินไป
ความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า
  • ตัดการเชื่อมต่อแบตเตอรี่ก่อนซ่อมบำรุงอุปกรณ์ ถอดขั้วลบออกก่อน ตามด้วยขั้วบวก ต่อขั้วบวกก่อน ตามด้วยขั้วลบ
  • ชาร์จแบตเตอรี่ในพื้นที่เปิดโล่งที่ระบายอากาศได้ดี ห่างจากประกายไฟและเปลวไฟ ถอดปลั๊กเครื่องชาร์จก่อนต่อหรือตัดการเชื่อมต่อแบตเตอรี่ สวมใส่ชุดป้องกันและใช้เครื่องมือมีฉนวน
ความปลอดภัยของระบบหล่อเย็น
  • น้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์เป็นพิษ ห้ามรับประทาน และเก็บให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
  • การระบายน้ำหล่อเย็นที่ร้อนและมีแรงดัน หรือการสัมผัสหม้อน้ำร้อนและชิ้นส่วนรอบๆ อาจทำให้ผิวหนังถูกลวกรุนแรง
    • ปล่อยให้เครื่องยนต์เย็นลงอย่างน้อย 15 นาทีก่อนถอดฝาหม้อน้ำเสมอ
    • ใช้ผ้าขี้ริ้วเมื่อเปิดฝาหม้อน้ำ และเปิดฝาช้าๆ เพื่อปล่อยไอน้ำออก
ความปลอดภัยของระบบไฮดรอลิก
  • ไปพบแพทย์ทันทีหากโดนน้ำมันฉีดใส่ผิวหนัง น้ำมันที่ฉีดโดนร่างกายจะต้องให้แพทย์ผ่าตัดออกภายในสองถึงสามชั่วโมง
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่ออ่อนน้ำมันไฮดรอลิกและท่อระบบมีสภาพดี และข้อต่อและการเชื่อมต่อระบบไฮดรอลิกทั้งหมดแน่นหนาก่อนจ่ายแรงดันเข้าไปในระบบไฮดรอลิก
  • เก็บมือและร่างกายออกห่างจากจุดรั่วรูเข็มหรือหัวฉีดที่ฉีดน้ำมันไฮดรอลิกแรงดันสูง
  • ใช้กระดาษลังหรือกระดาษหาจุดรั่วของระบบไฮดรอลิก
  • ระบายแรงดันในระบบไฮดรอลิกอย่างปลอดภัยก่อนทำงานใดๆ กับระบบไฮดรอลิก
ความปลอดภัยเกี่ยวกับใบมีด
  • ใบมีดหรือใบมีดล่างที่สึกหรือเสียหายอาจจะแตกออกได้ และชิ้นส่วนอาจกระเด็นไปโดนตัวคุณหรือผู้อื่น จนอาจทำให้บาดเจ็บรุนแรงหรือเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
  • ตรวจสอบเป็นระยะว่าใบมีดหรือใบมีดล่างสึกหรอหรือเสียหายหรือไม่
  • ใช้ความระมัดระวังขณะที่ตรวจสอบใบมีด สวมใส่ถุงมือและใช้ความระมัดระวังขณะบำรุงรักษาใบมีด ให้เปลี่ยนหรือลับใบมีดเท่านั้น ห้ามยืดหรือเชื่อมใบมีดเด็ดขาด
  • ในอุปกรณ์ที่มีชุดตัดหญ้าหลายชุด ให้ใช้ความระมัดระวังขณะหมุนชุดตัดหญ้า เนื่องจากอาจทำให้ใบมีดพวงในชุดตัดหญ้าอื่นๆ หมุนได้

ความปลอดภัยเมื่อจัดเก็บ

สติกเกอร์เตือนอันตรายและคำแนะนำ

Image
สติกเกอร์และคำแนะนำด้านความปลอดภัยมองเห็นได้ชัดเจน และติดอยู่ใกล้กับบริเวณที่มีโอกาสเกิดอันตราย เปลี่ยนสติกเกอร์ที่เสียหายหรือหายไป
สัญลักษณ์แบตเตอรี่
สัญลักษณ์เหล่านี้บางส่วนหรือทั้งหมดมีติดอยู่บนแบตเตอรี่
Graphic
s_batterysymbols2
  1. อันตรายจากการระเบิด
  2. ห้ามอยู่ใกล้ไฟ เปลวไฟ หรือสูบบุหรี่
  3. อันตรายจากน้ำยากัดกร่อน/แผลไหม้จากสารเคมี
  4. สวมแว่นนิรภัย
  5. อ่านคู่มือผู้ใช้
  6. กันผู้ที่อยู่รอบข้างออกห่างจากแบตเตอรี่
  7. สวมแว่นนิรภัย ก๊าซที่จุดระเบิดได้อาจทำให้ตาบอดและเกิดการบาดเจ็บอื่นๆ ได้
  8. กรดแบตเตอรี่อาจทำให้ตาบอดหรือลวกผิวหนังอย่างรุนแรง
  9. ล้างตาด้วยน้ำทันทีและพบแพทย์โดยเร็ว
  10. มีตะกั่ว ห้ามทิ้ง
ชิ้นส่วนสติกเกอร์93-6680
Graphic
s_decal93-6680
ชิ้นส่วนสติกเกอร์93-6686
Graphic
s_decal93-6686
  1.  น้ำมันไฮดรอลิก
  2.  อ่านคู่มือผู้ใช้
ชิ้นส่วนสติกเกอร์98-4387
Graphic
s_decal98-4387
  1.  คำเตือนสวมใส่เครื่องป้องกันการได้ยิน
ชิ้นส่วนสติกเกอร์106-6754
Graphic
s_decal106-6754
  1.  คำเตือนห้ามแตะพื้นผิวร้อน
  2.  อันตรายจากการถูกบาด/ถูกตัด อันตรายจากพัดลมและการเกี่ยวพันอยู่ให้ห่างจากชิ้นส่วนเคลื่อนไหว
ชิ้นส่วนสติกเกอร์106-6755
Graphic
s_decal106-6755
  1.  น้ำยาหล่อเย็นเครื่องยนต์มีความดัน
  2.  อันตรายจากการระเบิด อ่านคู่มือผู้ใช้
  3.  คำเตือน ห้ามแตะพื้นผิวร้อน
  4.  คำเตือน อ่านคู่มือผู้ใช้
ชิ้นส่วนสติกเกอร์110-9642
Graphic
s_decal110-9642
  1.  อันตรายจากพลังงานสะสมอ่านคู่มือผู้ใช้
  2.  ขยับปิ๊นตัวอาร์ลงในรูที่ใกล้กับโครงยึดก้านมากที่สุด จากนั้นถอดแขนยกและก้ามปูหมุนออก
ชิ้นส่วนสติกเกอร์117-4763
Graphic
s_decal117-4763
  1.  หากต้องการใช้งานเบรกจอด ให้ยึดแป้นเบรกด้วยสลักล็อก เหยียบแป้นเบรกจอด แล้วกดแป้นนิ้วหัวแม่โป้ง
  2.  หากต้องการปลดเบรกจอด ปลดสลักล็อกแล้วปล่อยเบรก
ชิ้นส่วนสติกเกอร์117-4765
Graphic
s_decal117-4765
  1.  อ่านคู่มือผู้ใช้
  2.  ห้ามใช้อุปกรณ์ช่วยสตาร์ท
ชิ้นส่วนสติกเกอร์117-4766
Graphic
s_decal117-4766
  1.  อันตรายจากการถูกบาด/ถูกตัด พัดลมอยู่ให้ห่างจากชิ้นส่วนเคลื่อนไหว ติดตั้งแผงกั้นและอุปกรณ์นิรภัยให้เข้าที่
ชิ้นส่วนสติกเกอร์120-1670
Graphic
s_decal120-1670
  1.  ความเร็วรถตัดหญ้า
  2.  ช้า
  3.  เร็ว
ชิ้นส่วนสติกเกอร์120-1683
Graphic
s_decal120-1683
  1. คำเตือนอ่านอ่านคู่มือผู้ใช้l ผู้ปฏิบัติงานทุกคนควรผ่านการฝึกอบรมก่อนใช้งานอุปกรณ์
  2. คำเตือนอ่านคู่มือผู้ใช้ก่อนการลากพ่วงอุปกรณ์
  3. อันตรายจากการพลิกคว่ำขับช้าๆ ขณะเลี้ยว อย่าหักเลี้ยวอย่างกะทันหันขณะแล่นด้วยความเร็ว ลดระดับชุดตัดหญ้าลงมาขณะขับลงเนิน ใช้ระบบป้องกันการพลิกคว่ำและคาดเข็มขัดนิรภัย
  4. คำเตือนอย่าจอดอุปกรณ์บนทางลาด ใช้เบรกจอด ลดชุดตัดหญ้าลง ดับเครื่องยนต์ และดึงกุญแจออก ก่อนลุกออกจากอุปกรณ์
  5. อันตรายจากวัตถุกระเด็นกันคนโดยรอบให้อยู่ห่างจากเครื่องตัดหญ้า
  6. อันตรายจากการเกี่ยวพันอยู่ให้ห่างจากชิ้นส่วนเคลื่อนไหว ติดตั้งแผงกั้นและอุปกรณ์นิรภัยเข้าที่
ชิ้นส่วนสติกเกอร์120-8947
Graphic
s_decal120-8947
  1.  คำเตือนอ่านคู่มือผู้ใช้
  2.  หากลดโรลบาร์ลง อุปกรณ์จะไม่มีการป้องกันการพลิกคว่ำ
  3.  เมื่อยกโรลบาร์ขึ้น อุปกรณ์จะมีการป้องกันการพลิกคว่ำ
  4.  หากยกโรลบาร์ขึ้น ให้คาดเข็มขัดนิรภัย
  5.  หากลดโรลบาร์ลงมา ไม่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย
  6.  ขับช้าๆ ขณะเลี้ยว
ชิ้นส่วนสติกเกอร์121-3884
Graphic
s_decal121-3884
  1.  เครื่องยนต์หยุด
  2.  เครื่องยนต์อุ่นเครื่อง
  3.  เครื่องยนต์สตาร์ท
ชิ้นส่วนสติกเกอร์121-3887
Graphic
s_decal121-3887
  1.  อ่านคู่มือผู้ใช้
ชิ้นส่วนสติกเกอร์121-5644
Graphic
s_decal121-5644
  1.  สวิตช์ไฟ
  2.  ใช้งาน
  3.  เกียร์ฝาก
  4.  ปลด
  5.  เร็ว
  6.  ช้า
  7.  ลดต่ำ
  8.  ยกสูง
  9.  อ่านคู่มือผู้ใช้
ชิ้นส่วนสติกเกอร์133-8062
Graphic
s_decal133-8062
ชิ้นส่วนสติกเกอร์136-3712
Graphic
s_decal136-3712
  1. ตะแกรงหม้อน้ำ
  2. แรงดันลมยาง
  3. เพลาท้าย
  4. สายพานพัดลม
  5. ตัวกรองอากาศเครื่องยนต์
  6. น้ำมันไฮดรอลิก
  7. ระดับน้ำมันไฮดรอลิก
  8. เฟืองแพลเนต
  9. ตรวจสอบทุก 8 ชั่วโมง
  10. อ่านข้อมูลเกี่ยวกับการหล่อลื่นได้จากคู่มือผู้ใช้
  11. ระดับน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์
  12. น้ำมันเครื่อง
  13. ระดับน้ำมันเครื่อง
  14. เครื่องแยกน้ำ/เชื้อเพลิง
  15. แบตเตอรี่
  16. น้ำมันดีเซล
  17. ฟังก์ชันการทำงานของเบรก
  18. อ่านคู่มือผู้ใช้
  19. ของเหลว
  20. ความจุ
  21. รอบของเหลว (ชั่วโมง)
  22. รอบตัวกรอง (ชั่วโมง)
  23. ช่องระบายของระบบไฮดรอลิก
  24. ตัวกรองอากาศนิรภัย
  25. น้ำยาหล่อเย็นเครื่องยนต์
ชิ้นส่วนสติกเกอร์145-5258
Graphic
s_decal145-5258
  1.  กำลัง
  2.  Info center
  3.  เครื่องยนต์
  4.  ไฟทำงาน
  5.  เบาะที่นั่งไฟฟ้า
  6.  เซนเซอร์
  7.  ห้องโดยสาร
 
 
 
การตั้งค่า
 
    Graphic
    G419213
  1. ตรวจสอบตำแหน่งลูกกลิ้งของชุดตัดหญ้าทั้งหมดและปรับตามความจำเป็น
    • สำหรับชุดตัดหญ้าขนาด 68.58 ซม. (27 นิ้ว) ใช้รูยึดด้านบน ของแผ่นรองรับลูกกลิ้ง
    • สำหรับชุดตัดหญ้าขนาด 81.28 ซม. (32 นิ้ว) ใช้รูยึดด้านล่าง ของแผ่นรองรับลูกกลิ้ง
อะไหล่ที่ต้องใช้
1
ตะขอนำทางท่อขวาหน้า
1
ตะขอนำทางท่อซ้ายหน้า
การเตรียมอุปกรณ์
  1. ถอดโครงยึดสำหรับขนส่งออกจากมอเตอร์ใบมีดพวง แล้วนำไปทิ้ง
การเตรียมชุดตัดหญ้า
    Graphic
    G409089
  1. นำชุดตัดหญ้าออกจากลัง
  2. ประกอบและปรับตามที่ขั้นตอนที่อธิบายไว้ในคู่มือผู้ใช้ของชุดตัดหญ้า
  3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการติดตั้งน้ำหนักถ่วง เข้ากับปลายของชุดตัดหญ้าด้านที่ถูกต้องตามที่อธิบายไว้ในคู่มือผู้ใช้ของชุดตัดหญ้า
การวางสปริงชดเชยสภาพสนามและการติดตั้งตะขอนำทางท่อ
ชุดตัดหญ้า 4
Graphic
G410291
  1. ชุดตัดหญ้า 1
  2. ชุดตัดหญ้า 2
  3. ชุดตัดหญ้า 3
  4. ชุดตัดหญ้า 4
  5. ชุดตัดหญ้า 5
  6. มอเตอร์ใบมีดพวง
  7. น้ำหนักถ่วง
    Graphic
    G410292
  1. หากติดตั้งปิ๊นตัวอาร์ ไว้ที่รูท้ายของก้านสปริงชดเชยสภาพสนาม ให้ถอดปิ๊นตัวอาร์ออกและสอดลงในรูปข้างโครงยึด
  2. Graphic
    G402719
  3. ถอดน็อตล็อกติดจาน (9.52 มม. / 3/8 นิ้ว) 2 ตัว และสลักเกลียวหัวมน (9.52 x 42.7 มม. / 3/8 x 1-1/4 นิ้ว) 2 ตัว ที่ยึดโครงยึดตัวชดเชยสภาพสนามเข้ากับโครงของชุดตัดหญ้า
  4. Graphic
    G410295
  5. ถอดน็อตล็อกติดจาน (9.52 มม. / 3/8 นิ้ว) ที่ยึดสลักเกลียว เข้ากับหูด้านขวา ของโครงส่วนบรรทุก และถอดสปริงชดเชยสภาพออกจากชุดตัดหญ้า
    หมายเหตุ: อย่าถอดน็อตจานจักรออกจากสลักเกลียว
  6. Graphic
    G410296
  7. ประกอบสลักเกลียว ของสปริงชดเชยสภาพสนามเข้ากับหูขวา ของโครงส่วนบรรทุกด้วยน็อตล็อกติดจาน (9.52 มม. / 3/8 นิ้ว)
  8. Graphic
    G410297
  9. จัดตำแหน่งให้สลัก ของตะขอนำทางท่อด้านซ้ายตรงกับรูในโครงชุดตัดหญ้าและโครงยึดตัวชดเชยสภาพสนาม
    หมายเหตุ: ห่วงรองรับของตะขอนำทางท่อจะต้องตรงกับแนวกลางของอุปกรณ์
  10. ประกอบตะขอนำทางท่อและโครงยึดตัวชดเชยสภาพสนามเข้ากับโครงชุดตัดหญ้าด้วยน็อตล็อกติดจาน (9.52 มม. / 3/8 นิ้ว) 2 ตัว
  11. ขันน็อตล็อกและสลักเกลียวจนได้แรงบิด 37 ถึง 45 นิวตันเมตร (27 ถึง 33 ฟุตปอนด์)
การติดตั้งตะขอนำทางท่อ
ชุดตัดหญ้า 5
Graphic
G410309
  1. ชุดตัดหญ้า 1
  2. ชุดตัดหญ้า 2
  3. ชุดตัดหญ้า 3
  4. ชุดตัดหญ้า 4
  5. ชุดตัดหญ้า 5
  6. มอเตอร์ใบมีดพวง
  7. น้ำหนักถ่วง
    Graphic
    G410292
  1. หากติดตั้งปิ๊นตัวอาร์ ไว้ที่รูท้ายของก้านสปริงชดเชยสภาพสนาม ให้ถอดปิ๊นตัวอาร์ออกและสอดลงในรูปข้างโครงยึด
  2. Graphic
    G410293
  3. ถอดน็อตล็อกติดจาน (9.52 มม. / 3/8 นิ้ว) 2 ตัว และสลักเกลียวหัวมน (9.52 x 42.7 มม. / 3/8 x 1-1/4 นิ้ว) 2 ตัว ที่ยึดโครงยึดตัวชดเชยสภาพสนามเข้ากับโครงของชุดตัดหญ้า
  4. Graphic
    G410311
  5. จัดตำแหน่งให้สลัก ของตะขอนำทางท่อด้านขวาตรงกับรูในโครงชุดตัดหญ้าและโครงยึดตัวชดเชยสภาพสนาม
    หมายเหตุ: ดูให้แน่ใจว่าห่วงรองรับของตะขอนำทางท่อตรงกับแนวกลาง ของอุปกรณ์
  6. ประกอบตะขอนำทางท่อและโครงยึดตัวชดเชยสภาพสนามเข้ากับโครงชุดตัดหญ้าด้วยน็อตล็อกติดจาน (9.52 มม. / 3/8 นิ้ว) 2 ตัว
  7. ขันน็อตล็อกจนได้แรงบิด 37 ถึง 45 นิวตันเมตร (27 ถึง 33 ฟุตปอนด์)
การจัดวางสปริงชดเชยสภาพสนาม
ชุดตัดหญ้า 2
Graphic
G410999
  1. ชุดตัดหญ้า 1
  2. ชุดตัดหญ้า 2
  3. ชุดตัดหญ้า 3
  4. ชุดตัดหญ้า 4
  5. ชุดตัดหญ้า 5
  6. มอเตอร์ใบมีดพวง
  7. น้ำหนักถ่วง
    Graphic
    G410292
  1. หากติดตั้งปิ๊นตัวอาร์ ไว้ที่รูท้ายของก้านสปริงชดเชยสภาพสนาม ให้ถอดปิ๊นตัวอาร์ออกและสอดลงในรูปข้างโครงยึด
  2. Graphic
    G410293
  3. ถอดน็อตล็อกติดจาน (9.52 มม. / 3/8 นิ้ว) 2 ตัว และสลักเกลียวหัวมน (9.52 x 42.7 มม. / 3/8 x 1-1/4 นิ้ว) 2 ตัว ที่ยึดโครงยึดตัวชดเชยสภาพสนามเข้ากับโครงของชุดตัดหญ้า
  4. Graphic
    G410295
  5. ถอดน็อตล็อกติดจาน (9.52 มม. / 3/8 นิ้ว) ที่ยึดสลักเกลียว ของสปริงชดเชยสภาพสนามเข้ากับหูด้านขวา ของโครงส่วนบรรทุก และถอดสปริงชดเชยสภาพออกจากชุดตัดหญ้า
    หมายเหตุ: อย่าถอดน็อตจานจักรออกจากสลักเกลียว
  6. Graphic
    G410296
  7. ประกอบสลักเกลียว ของสปริงชดเชยสภาพสนามเข้ากับหูขวา ของโครงส่วนบรรทุกด้วยน็อตล็อกติดจาน (9.52 มม. / 3/8 นิ้ว)
  8. Graphic
    G411000
  9. เรียงรูบนโครงยึดตัวชดเชยสภาพสนาม ให้ตรงกับรูในโครงชุดตัดหญ้า
    หมายเหตุ: ห่วงรองรับของตะขอนำทางท่อจะต้องตรงกับแนวกลางของอุปกรณ์
  10. ประกอบโครงยึดตัวชดเชยสภาพสนามเข้ากับโครงชุดตัดหญ้าด้วยสลักเกลียวหัวมน (9.52 x 42.7 มม. / 3/8 x 1-1/4 นิ้ว) 2 ตัว และน็อตล็อกติดจาน (9.52 มม. / 3/8 นิ้ว) 2 ตัว
  11. ขันน็อตล็อกและสลักเกลียวจนได้แรงบิด 37 ถึง 45 นิวตันเมตร (27 ถึง 33 ฟุตปอนด์)
การติดตั้งขาตั้ง
    Graphic
    G411001
  1. ยึดขาตั้ง เข้ากับโครงยึดโซ่ ด้วยหมุดสแนปเปอร์ สำหรับชุดตัดหญ้าแต่ละชุด
การเพิ่มมุมองศาการหมุนของชุดตัดหญ้าส่วนท้าย
Graphic
G419225
  1. ชุดตัดหญ้า 1
  2. ชุดตัดหญ้า 2
  3. ชุดตัดหญ้า 3
  4. ชุดตัดหญ้า 4
  5. ชุดตัดหญ้า 5
  6. มอเตอร์ใบมีดพวง
  7. น้ำหนักถ่วง
    Graphic
    G419226
  1. เพิ่มมุมองศาการหมุนของชุดตัดหญ้าส่วนท้ายด้วยการนำตัวคั่น 2 ตัว สกรูหัวจมหกเหลี่ยม 2 ตัว และน็อตล็อกมีบ่า 2 ตัว ออกจากโครงส่วนบรรทุก ของชุดตัดหญ้า 2 และ 3
การเตรียมตัวติดตั้งชุดตัดหญ้า
    Graphic
    G419227
  1. ตรวจสอบว่าแหวนรอง ครอบอยู่บนเพลาโครงส่วนบรรทุก
  2. หยอดจาระบีบนเพลาโครงส่วนบันทึก
  3. ทำซ้ำขั้นตอนนี้กับชุดตัดหญ้าตัวอื่น ๆ
การติดตั้งชุดตัดหญ้าด้านหน้า
    Graphic
    G419230
  1. ติดตั้งชุดตัดหญ้าด้านหน้าตามขั้นตอนในภาพ
การติดตั้งชุดตัดหญ้าส่วนท้ายเข้ากับแขนยก
ชุดตัดหญ้าปรับที่ 1.2 ซม. (3/4 นิ้ว) หรือความสูงในการตัดที่สูงขึ้น
    Graphic
    G420567
  1. ติดตั้งชุดตัดหญ้าส่วนท้ายเข้ากับแขนยกตามขั้นตอนในภาพ
การติดตั้งชุดตัดหญ้าส่วนท้ายเข้ากับแขนยก
ชุดตัดหญ้าปรับที่ 1.2 ซม. (3/4 นิ้ว) หรือความสูงในการตัดที่ต่ำลง
    Graphic
    G420582
  1. เลื่อนเพลาหมุนแขนยก ออกจากแขนยก โดยการถอดหมุดสลัก และแหวน ออก
  2. Graphic
    G420583
  3. เลื่อนข้อต่อแขนยก และแหวน เข้าไปบนเพลาของโครงส่วนบรรทุก จากนั้นยึดด้วยหมุดสลัก
  4. เลื่อนชุดตัดหญ้าเข้าใต้แขนยก
  5. Graphic
    G420584
  6. เลื่อนเพลาหมุนแขนยก และแหวน เข้าไปบนแขนยก จากนั้นยึดด้วยหมุดสลัก
  7. ทำซ้ำขั้นตอนนี้กับชุดตัดหญ้าส่วนหลังตัวอื่น ๆ
การติดตั้งโซ่แขนยกของชุดตัดหญ้า
    Graphic
    G402673
  1. ยึดโซ่ของแขนยก เข้ากับโครงยึดโซ่ ด้วยหมุดสแนปเปอร์
    หมายเหตุ: ใช้ข้อโซ่ตามจำนวนที่อธิบายในคู่มือผู้ใช้ของชุดตัดหญ้า
การติดตั้งมอเตอร์ใบมีดพวง
  1. หยอดจาระบีบนเพลาร่องฟันของมอเตอร์
  2. ทาน้ำมันที่โอริงของมอเตอร์ใบมีดพวง และติดตั้งเข้ากับหน้าแปลนมอเตอร์
  3. ติดตั้งมอเตอร์ โดยหมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อให้หน้าแปลนมอเตอร์ไม่ติดสลักเกลียว
    Graphic
    G411002
  4. หมุนมอเตอร์ทวนเข็มนาฬิกาจนกว่าหน้าแปลนวนรอบสลักเกลียว จากนั้นขันสลักเกลียวให้แน่น
    สำคัญ  
    ตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่อของมอเตอร์ใบมีดพวงไม่บิด งอ หรือเสี่ยงที่จะถูกหนีบ
     
  5. ขันสลักเกลียวยึดจนได้แรงบิด 37 ถึง 45 นิวตันเมตร (27 ถึง 33 ฟุตปอนด์)
การป้อนข้อมูลตั้งค่าชุดตัดหญ้า
  1. ใช้รหัส PIN เพื่อป้อนข้อมูลชุดตัดหญ้าต่อไปนี้ใน InfoCenter:
    • จำนวนใบมีด
    • ความเร็วการตัดหญ้า
    • ความสูงในการตัด
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ ลดชุดตัดหญ้าลงมา และเข้าเบรกจอด
  2. ดับเครื่องยนต์ ดึงกุญแจออก และรอให้ชิ้นส่วนเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดนิ่ง
  3. ตรวจสอบแรงดันลมยางก่อนใช้งาน
    หมายเหตุ: ลมยางจะแข็งกว่าปกติเพื่อให้สะดวกสำหรับการขนส่ง ปรับแรงดันลมยางก่อนใช้งานอุปกรณ์
  4. ตรวจสอบระดับน้ำมันหล่อลื่นของเพลาท้าย
  5. ตรวจสอบระดับน้ำมันไฮดรอลิก
  6. อัดจาระบี
    สำคัญ  
    หากไม่อัดจาระบีอุปกรณ์อย่างเหมาะสมจะส่งผลให้ชิ้นส่วนสำคัญสึกหรอก่อนเวลาอันควร
     
  7. เปิดฝากระโปรงอุปกรณ์และตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์
  8. ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง จากนั้นปิดและล็อกสลักฝากระโปรงอุปกรณ์
    หมายเหตุ: เครื่องยนต์เติมน้ำมันในห้องข้อเหวี่ยงมาให้แล้วจากโรงงาน แต่ควรตรวจสอบระดับน้ำมันก่อนและหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งแรก
 
 
 
ภาพรวมผลิตภัณฑ์
 
Graphic
G403841
  1.  ฝากระโปรงเครื่องยนต์
  2.  เบาะที่นั่งคนขับ
  3.  แขนควบคุม
  4.  พวงมาลัย
  5.  คันปรับเบาะที่นั่ง
  6.  ชุดตัดหญ้าส่วนหน้า
  7.  ชุดตัดหญ้าส่วนท้าย

ส่วนควบคุมม

Graphic
G467742
  1. สวิตช์กุญแจ
  2. คันควบคุมการยก/ลดชุดตัดหญ้า
  3. คันโยกลิ้นเร่ง
  4. สวิตช์ไฟหน้า
  5. สวิตช์ PTO
  6. InfoCenter
  7. แป้นเบรก
  8. สลักล็อกแป้น
  9. แป้นเบรกจอด
  10. แป้นขับเคลื่อน
  11. แป้นปรับพวงมาลัย
แป้นขับเคลื่อน
Graphic
G468096
  1.  เดินหน้าเหยียบแป้นขับเคลื่อนส่วนบน
    หมายเหตุ: หากต้องการให้อุปกรณ์ที่ไม่ได้บรรทุกสิ่งใดขับเคลื่อนบนพื้นด้วยความเร็วสูงสุด ให้เหยียบแป้นส่วนบนจนสุดในขณะที่ลิ้นเร่งอยู่ในตำแหน่งเร็ว
  2.  หยุดอุปกรณ์ผ่อนแรงเหยียบบนแป้นขับเคลื่อน และปล่อยให้แป้นคืนกลับมาที่ตำแหน่งกลาง (เกียร์ว่าง)
  3.  ถอยหลังเหยียบแป้นขับเคลื่อนส่วนล่าง
หมายเหตุ: ความเร็วขับเคลื่อนบนพื้นจะขึ้นอยู่กับว่าคุณเหยียบแป้นมากน้อยเพียงใด
แป้นปรับพวงมาลัย
Graphic
G453181
เหยียบแป้นปรับพวงมาลัย แล้วยกก้านพวงมาลัยขึ้นหรือลงจนได้ตำแหน่งทำงานที่สบายที่สุด
แป้นเบรก
แป้น 2 เท้าใช้ควบคุมเบรกล้อแต่ละล้อสำหรับช่วยในการเลี้ยว และเพื่อให้มีแรงยึดเกาะดีขึ้นเมื่อทำงานบริเวณเนิน
สลักล็อกแป้น
สลักล็อกแป้นต่อแป้นเหยียบเข้าด้วยกันเพื่อให้เบรกจอดทำงาน
แป้นเบรกจอด
หากต้องการใช้เบรกจอด ต่อแป้นเหยียบเข้าด้วยกันโดยใช้สล็กล็อกแป้นเบรก และเหยียบแป้นเบรกด้านขวาลงขณะที่กดแป้นหัวแม่โป้ง
หมายเหตุ: ขณะใช้งานเบรกจอด สัญลักษณ์เบรกจอดจะแสดงใน InfoCenter
หากต้องการปลดเบรกจอด กดแป้นเบรกอันใดอันหนึ่งจนกระทั่งสลักเบรกจอดจะหดกลับ
สวิตช์กุญแจ
Graphic
G453721
  1.  ปิด
  2.  เปิด/อุ่นเครื่อง
  3.  สตาร์ท
สวิตช์ไฟหน้า
Graphic
G468064
  1.  เปิด
  2.  ปิด
คันควบคุมการยก/ลดชุดตัดหญ้า
Graphic
G453725
  1.  ลดชุดตัดหญ้าลง
  2.  ยกชุดตัดหญ้าขึ้น
    หมายเหตุ: คันควบคุมยังเริ่มต้นและหยุดการทำงานของใบมีดพวงเมื่อเปิดใช้งานใบมีดพวงในโหมดตัดหญ้าด้วย
    ชุดตัดหญ้าจะไม่สามารถลดระดับลงมาได้เมื่อคันโยกตัดหญ้า/เคลื่อนย้ายอยู่ในตำแหน่งเคลื่อนย้าย
คันโยกลิ้นเร่ง
Graphic
G447509
ดันคันโยกลิ้นเร่งไปข้างหน้าเพื่อเพิ่มความเร็วเครื่องยนต์ และดันไปข้างหลังเพื่อลดความเร็วเครื่องยนต์
สวิตช์จำกัดความเร็วการตัดหญ้า
Graphic
G467875
  1. หมุนสวิตช์จำกัดความเร็วไปด้านหน้าให้ชุดตัดหญ้าทำงานและจำกัดความเร็วสูงสุดในการขับเคลื่อนบนพื้นขณะตัดหญ้า
  2. หมุนสวิตช์จำกัดความเร็วมาด้านหลังใช้ความเร็วสูงสุดในการขับเคลื่อนบนพื้นเพื่อเดินทางไปยังสนามต่างๆ
  3. ตัวคั่นเปลี่ยนตำแหน่งตัวคั่นเพื่อปรับความเร็วการตัดหญ้า-ขับเคลื่อนบนพื้น
  4. สกรูสวิตช์จำกัดความเร็วเดินหน้าปรับสกรูเพื่อจำกัดระยะเหยียบของแป้นขับเคลื่อนในทิศทางเดินหน้า
  5. สกรูสวิตช์จำกัดความเร็วถอยหลังปรับสกรูเพื่อจำกัดระยะเหยียบของแป้นขับเคลื่อนในทิศทางถอยหลัง
    สำคัญ  
    สกรูสวิตช์ปรับความเร็วต้องหยุดแป้นขับเคลื่อนก่อนที่ปั๊มจะชักจะสุด มิฉะนั้นปั๊มอาจเกิดความเสียหายได้
     
จุดต่อไฟฟ้า
Graphic
G467886
จุดต่อไฟฟ้า เป็นจุดจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ถุงแขวน
Graphic
G467887
ใช้ถุงแขวน สำหรับเก็บของ
InfoCenter
Graphic
G453726
InfoCenter แสดงข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ เช่น สถานะการทำงาน การวินิจฉัยต่างๆ และข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์
คันโยกลับคม
ใช้คันโยกลับคมควบคุมทิศทางการหมุนของชุดตัดหญ้าเมื่อลับคมใบมีดพวง
Graphic
G468066
  1.  คันโยกลับคมชุดตัดหญ้าส่วนหน้า
  2.  คันโยกลับคมชุดตัดหญ้าส่วนท้าย
สวิตช์เกียร์ฝาก (PTO)
Graphic
G468089
  1.  ใช้งานชุดตัดหญ้า
  2.  ตัดการทำงานของชุดตัดหญ้า
เกจเชื้อเพลิง
Graphic
G468098
ส่วนควบคุมเบาะที่นั่ง
Graphic
G423842
  1. ลูกบิดปรับที่พักแขน
  2. คันปรับเอนเบาะ
  3. คันปรับเอนเบาะไปด้านหน้าและด้านหลัง
  4. คันปรับน้ำหนัก
  5. เกจน้ำหนัก
ลูกบิดปรับที่พักแขน
หมุนลูกบิดเพื่อปรับองศาที่พักแขนที่นั่ง
คันปรับพนักพิง
ขยับคันปรับเพื่อปรับองศาการเอนเบาะ
คันปรับเบาะที่นั่งไปด้านหน้า/ด้านหลัง
ดึงคันปรับออกมาเพื่อเลื่อนเบาะที่นั่งไปข้างหน้าหรือข้างหลัง
คันปรับน้ำหนัก
ปรับที่นั่งให้เหมาะกับน้ำหนักของคุณ ดึงคันปรับขึ้นเพื่อเพิ่มแรงดันลม และดันลงเพื่อลดแรงดันลม เกจน้ำหนักจะอยู่ในช่วงสีเขียวถ้าคุณปรับได้เหมาะสมแล้ว
เกจน้ำหนัก
เกจน้ำหนักจะแสดงเมื่อเบาะที่นั่งได้รับการปรับให้เหมาะกับน้ำหนักของผู้ปฏิบัติงาน คุณสามารถปรับความสูงได้โดยการปรับระบบรองรับให้อยู่ภายในช่วงสีเขียว
ข้อมูลจำเพาะ
หมายเหตุ: ข้อมูลจำเพาะและการออกแบบอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
ความกว้างในการตัด, ชุดตัดหญ้า 27 นิ้ว
307 ซม. (121 นิ้ว)
ความกว้างในการตัด, ชุดตัดหญ้า 32 นิ้ว
320 ซม. (126 นิ้ว)
ความกว้างโดยรวม, ชุดตัดหญ้า 27 นิ้ว ยกลง
345 ซม. (136 นิ้ว)
ความกว้างโดยรวม, ชุดตัดหญ้า 32 นิ้ว ยกลง
358 ซม. (141 นิ้ว)
ความกว้างโดยรวม, ชุดตัดหญ้า ยกขึ้น (เคลื่อนย้าย)
239 ซม. (94 นิ้ว)
ความยาวโดยรวม
370 ซม. (146 นิ้ว)
ความสูงเมื่อมี ROPS
220 ซม. (87 นิ้ว)
ความกว้างช่วงล้อด้านหน้า
229 ซม. (90 นิ้ว)
ความกว้างช่วงล้อด้านหลัง
141 ซม. (55.5 นิ้ว)
ฐานล้อ
171 ซม. (67.5 นิ้ว)
น้ำหนักสุทธิ (ไม่รวมชุดตัดหญ้า น้ำมัน และน้ำยาต่าง ๆ)
1574 กก. (3,470 ปอนด์)
ความจุถังเชื้อเพลิง
83 ลิตร (22 แกลลอนสหรัฐ)

อุปกรณ์ต่อพ่วง/อุปกรณ์เสริม

เราจัดจำหน่ายอุปกรณ์ต่อพ่วงและอุปกรณ์เสริมที่ Toro รับรองมากมายสำหรับใช้กับเครื่องตัดหญ้าเพื่อเสริมประสิทธิภาพและขยายความสามารถ โปรดติดต่อตัวแทนบริการหรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Toro หรือเข้าไปที่ www.Toro.com เพื่อดูรายการอุปกรณ์ต่อพ่วงและอุปกรณ์เสริมที่รับรองทั้งหมด
เพื่อสมรรถนะสูงสุดและความปลอดภัยในการใช้งานอย่างต่อเนื่อง โปรดใช้เฉพาะอะไหล่ทดแทนและอุปกรณ์เสริมของแท้จาก Toro
 
 
 
การใช้งาน
 

ก่อนการใช้งาน

การบำรุงรักษาประจำวัน
ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์แต่ละวัน ให้ทำตามขั้นตอนการใช้แต่ละครั้ง/ขั้นตอนประจำวันที่ระบุในกำหนดการบำรุงรักษา
น้ำมันเชื้อเพลิง
ข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง
สำคัญ  
ห้ามใช้น้ำมันก๊าดหรือน้ำมันเบนซินแทนน้ำมันดีเซลโดยเด็ดขาด
 
น้ำมันดีเซล
ประเภท
ใช้น้ำมันดีเซลเกรดฤดูร้อน (หมายเลข 2-D) ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า -7°C (20°F) และเกรดฤดูหนาว (หมายเลข 1-D หรือหมายเลข 1-D/2-D ผสม) ในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่านั้น การใช้น้ำมันเกรดฤดูหนาวที่อุณหภูมิต่ำทำให้น้ำมันมีจุดวาบไฟและจุดไหลเทในอากาศหนาวต่ำลง ช่วยให้สตาร์ทเครื่องยนต์ง่ายขึ้น และลดตัวกรองเชื้อเพลิงอุดตัน
การใช้น้ำมันเกรดฤดูร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่า -7°C (20°F) ทำให้ปั๊มเชื้อเพลิงมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น และช่วยเพิ่มกำลังเครื่องยนต์เมื่อเทียบกับน้ำมันเกรดฤดูหนาว
ปริมาณกำมะถัน
ต่ำ(<500 ส่วนในล้านส่วน) หรือต่ำพิเศษ (<15 ส่วนในล้านส่วน)
ค่าซีเทนขั้นต่ำ
40
การจัดเก็บ
หาซื้อน้ำมันดีเซลหรือไบโอดีเซลที่ใหม่และสะอาดเตรียมไว้ให้เพียงพอต่อการใช้งานภายใน 180 วันเท่านั้น และไม่ควรใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เก็บไว้นานกว่า 180 วัน
น้ำมันและสารเสริมคุณภาพ
ห้ามเติมลงในน้ำมันเชื้อเพลิง
ไบโอดีเซล
ประเภท
อุปกรณ์นี้สามารถใช้น้ำมันผสมไบโอดีเซลได้สูงสุดถึง B20 (ไบโอดีเซล 20%, ดีเซลปิโตรเลียม 80%)
ส่วนของปิโตรดีเซลควรมีซัลเฟอร์ระดับต่ำหรือต่ำพิเศษ
ใช้น้ำมัน B5 (ไบโอดีเซลสัดส่วน 5%) หรือสัดส่วนผสมที่น้อยกว่านี้ในสภาพอากาศหนาวเย็น
ค่าซีเทนขั้นต่ำ
40
ข้อควรระวังเกี่ยวกับน้ำมันไบโอดีเซล
สีของอุปกรณ์อาจเสียหายได้หากสัมผัสโดนน้ำมันผสมไบโอดีเซล
ตรวจสอบซีล ท่อ ปะเก็นที่สัมผัสกับน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากชิ้นส่วนเหล่านี้อาจเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป
ตัวกรองเชื้อเพลิงอาจจะอุดตันหลังจากเปลี่ยนไปใช้น้ำมันผสมไบโอดีเซล
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไบโอดีเซล โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Toro
การจัดเก็บ
หาซื้อน้ำมันดีเซลหรือไบโอดีเซลที่ใหม่และสะอาดเตรียมไว้ให้เพียงพอต่อการใช้งานภายใน 180 วันเท่านั้น และไม่ควรใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เก็บไว้นานกว่า 180 วัน
น้ำมันและสารเสริมคุณภาพ
ห้ามเติมลงในน้ำมันเชื้อเพลิง
     
น้ำมันไบโอดีเซลจะต้องได้มาตรฐานดังต่อไปนี้:
มาตรฐาน
สถานที่
ASTM D6751
สหรัฐอเมริกา
EN 14214
สหภาพยุโรป
น้ำมันเชื้อเพลิงผสมจะต้องได้มาตรฐานดังต่อไปนี้:
ASTM D975
สหรัฐอเมริกา
EN 590
สหภาพยุโรป
การเติมน้ำมัน
    Graphic
    G423841
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ ลดชุดตัดหญ้าลงมา ดับเครื่องยนต์ และดึงกุญแจออก
  2. ทำความสะอาดบริเวณรอบๆ ฝาถังเชื้อเพลิง แล้วเปิดฝา
  3. เติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่กำหนดลงในถังเชื้อเพลิงจนกระทั่งระดับน้ำมันอยู่ใต้ช่องเติม
  4. ปิดฝาถังเชื้อเพลิงให้แน่น
    หมายเหตุ: ถ้าทำได้ ให้เติมน้ำมันหลังใช้งานทุกครั้ง การเติมน้ำมันเชื้อเพลิงช่วยลดการควบแน่นภายในถังเชื้อเพลิงให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด
การตรวจสอบสวิตช์อินเทอร์ล็อก
ข้อควรระวัง
หากสวิตช์อินเทอร์ล็อกนิรภัยขาดหรือชำรุด อุปกรณ์อาจทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บเล็กน้อยหรือปานกลางขึ้นได้
  • อย่าแก้ไขดัดแปลงสวิตช์อินเทอร์ล็อก
  • ตรวจสอบการทำงานของสวิตช์อินเทอร์ล็อกเป็นประจำทุกวัน และเปลี่ยนสวิตช์ที่เสียหายก่อนการใช้งานอุปกรณ์
 
สำคัญ  
หากการตรวจสอบสวิตช์อินเทอร์ล็อกของอุปกรณ์ล้มเหลว โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Toro
 
การเตรียมอุปกรณ์
  1. ขับอุปกรณ์ช้าๆ ไปยังพื้นที่เปิดโล่ง
  2. ลดชุดตัดหญ้าลงมา ดับเครื่องยนต์ และดึงเบรกมือ
การตรวจสอบอินเทอร์ล็อกสตาร์ทของแป้นขับเคลื่อน
  1. นั่งบนเบาะที่นั่งคนขับแล้วใช้เบรกจอด
  2. กดสวิตช์ PTO ไปที่ตำแหน่งปลด
  3. เหยียบแป้นขับเคลื่อนและบิดกุญแจไปที่ตำแหน่งสตาร์ท
หมายเหตุ: เครื่องยนต์ไม่ควรสตาร์ทขณะที่เหยียบแป้นขับเคลื่อน
การตรวจสอบอินเทอร์ล็อกสตาร์ทของ PTO
  1. นั่งลงบนที่นั่งคนขับ
  2. กดสวิตช์ PTO ไปที่ตำแหน่งใช้งาน
  3. บิดสวิตช์กุญแจไปที่ตำแหน่งสตาร์ท
หมายเหตุ: เครื่องยนต์ไม่ควรสตาร์ทขณะที่สวิตช์ PTO อยู่ในตำแหน่ง ใช้งาน
การตรวจสอบอินเทอร์ล็อกวิ่งของ PTO
  1. นั่งบนเบาะที่นั่งคนขับ จากนั้นกดสวิตช์ PTO ไปที่ตำแหน่งปลดการทำงาน
  2. สตาร์ทเครื่องยนต์และลุกขึ้นจากที่นั่ง
  3. กดสวิตช์ PTO ไปที่ตำแหน่งใช้งาน
    หมายเหตุ: PTO ไม่ควรวิ่งเมื่อคุณลุกออกจากเบาะที่นั่งของผู้ปฏิบัติงาน
การตรวจสอบอินเทอร์ล็อกวิ่งของเบรกจอดและแป้นขับเคลื่อน
  1. นั่งบนเบาะที่นั่งคนขับแล้วใช้เบรกจอด
  2. กดสวิตช์ PTO ไปที่ตำแหน่งปลด
  3. สตาร์ทเครื่องยนต์
  4. เหยียบแป้นขับเคลื่อน
    หมายเหตุ: เครื่องยนต์ควรดับไปขณะที่เบรกจอดทำงานอยู่ และแป้นขับเคลื่อนถูกเหยียบอยู่
ภาพรวมของจอแสดงผล InfoCenter
จอแสดงผล LCD InfoCenter แสดงข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ เช่น สถานะการทำงาน การวินิจฉัยต่างๆ และข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์ InfoCenter ประกอบด้วยหน้าจอเริ่มต้นและหน้าจอข้อมูลหลัก คุณสามารถสลับเปลี่ยนระหว่างหน้าจอเริ่มต้นกับหน้าจอข้อมูลหลักเมื่อใดก็ได้ โดยการกดปุ่ม InfoCenter ปุ่มใดก็ได้ จากนั้นเลือกลูกศรทิศทางที่เหมาะสม
Graphic
G446183
  1. ไฟบอกสถานะ
  2. ปุ่มขวา
  3. ปุ่มกลาง
  4. ปุ่มซ้าย
  • ปุ่มซ้าย, ปุ่มเข้าถึงเมนู/ปุ่มถอยหลังกดปุ่มนี้เพื่อเข้าสู่เมนู InfoCenter คุณสามารถใช้ปุ่มนี้เพื่อถอยกลับจากเมนูที่ใช้งานอยู่ได้
  • ปุ่มกลางใช้ปุ่มนี้เพื่อเลื่อนเมนูลง
  • ปุ่มขวาใช้ปุ่มนี้เพื่อเปิดเมนู ซึ่งลูกศรขวาจะระบุเนื้อหาเพิ่มเติม
  • หมุนย้อนพัดลมด้วยตัวเองเริ่มทำงานเมื่อกดปุ่มขวาและปุ่มซ้ายพร้อมกัน
  • สัญญาณเตือนดังขึ้นขณะลดฐานเด็ค หรือเพื่อแจ้งเตือนและบอกข้อบกพร่อง
หมายเหตุ: วัตถุประสงค์ของแต่ละปุ่มอาจเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับความต้องการในขณะนั้น แต่ละปุ่มจะติดฉลากไอคอนแสดงฟังก์ชันการทำงานในปัจจุบัน
ไอคอนบนจอแสดงผล InfoCenter
กำหนดการซ่อมบำรุง[SERVICE DUE]
แสดงว่าควรซ่อมบำรุงเมื่อใด
Image
ช่วงสูง
Image
ชั่วโมงคงเหลือจนถึงการซ่อมบำรุง
Image
เกียร์ว่าง
Image
รีเซ็ตชั่วโมงการซ่อมบำรุง
Image*
Image
ช่วงต่ำ
Image
มิเตอร์นับชั่วโมง
Image
อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น (°C หรือ °F)
Image
ไอคอนข้อมูล
Image
อุณหภูมิ (ร้อน)
Image
เร็ว
Image
PTO ทำงานอยู่
Image
ช้า
Image
ไม่อนุญาต
Image
เครื่องอุ่นอากาศเข้าทำงานอยู่
Image
สตาร์ทเครื่องยนต์
Image
ยกชุดตัดหญ้าขึ้น
Image
ดับเครื่องยนต์
Image
ลดชุดตัดหญ้าลง
Image
เครื่องยนต์
Image
นั่งอยู่ในเบาะที่นั่ง
Image
สวิตช์กุญแจ
Image
เบรกจอดใช้งานอยู่
Image
ชุดตัดหญ้ากำลังลดระดับลง
Image
แคนบัส
Image
ชุดตัดหญ้ากำลังยกขึ้น
Image
ไม่ดีหรือล้มเหลว
Image
PIN รหัสผ่าน
Image
เอาต์พุตของส่วนควบคุม TEC หรือสายควบคุมในชุดสายไฟ
Image
InfoCenter
Image
ปลดสวิตช์
Image
หลอดไฟ
Image
สวิตช์
Image
เปลี่ยนเป็นสถานะที่ระบุ
Image
สูง: มากกว่าช่วงที่อนุญาต
Image
อุณหภูมิน้ำมันไฮดรอลิก
Image
ต่ำ: ต่ำกว่าช่วงที่อนุญาต
Image
พัดลมหมุนย้อน
Image
อยู่นอกช่วง
   
         
สัญลักษณ์มักจะอยู่รวมกันเป็นประโยค ดูตัวอย่างบางส่วนได้จากด้านล่าง
Image Image
เข้าเกียร์ว่าง
Image Image
การสตาร์ทเครื่องยนต์ถูกปฏิเสธ
Image Image
เครื่องยนต์ดับ
Image Image
น้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ร้อนเกินไป 
Image หรือ Image
นั่งลงหรือใช้เบรกจอด
ImageImage
น้ำมันไฮดรอลิกร้อนเกินไป
*Image เข้าถึงได้เฉพาะเมื่อป้อน PIN เท่านั้น
ภาพรวมของเมนู
หากต้องการเข้าถึงระบบเมนู InfoCenter ให้กดปุ่มเข้าถึงเมนูขณะที่อยู่ในหน้าจอหลัก ส่วนนี้พาคุณไปยังเมนูหลัก โปรดดูข้อมูลสรุปเกี่ยวกับตัวเลือกที่มีในเมนูจากตารางด้านล่าง
เมนูหลัก
รายการเมนู
คำอธิบาย
Faults (ความขัดข้อง)
เมนูความขัดข้องระบุรายการความขัดข้องของอุปกรณ์ล่าสุด หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมนูความขัดข้องและข้อมูลที่อยู่ในเมนูดังกล่าว โปรดดูคู่มือซ่อมบำรุงหรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Toro
Service (ซ่อมบำรุง)
เมนูซ่อมบำรุงมีข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ เช่น ตัวนับชั่วโมงการใช้งาน และตัวเลขอื่นๆ ที่คล้ายกัน
Diagnostics (การวินิจฉัย)
เมนูวินิจฉัยแสดงสถานะของสวิตช์ เซ็นเซอร์ และเอาต์พุตการควบคุมของอุปกรณ์แต่ละส่วน คุณสามารถใช้เมนูนี้แก้ไขปัญหาบางอย่างได้ เนื่องจากระบบจะแจ้งว่าการควบคุมอุปกรณ์ส่วนใดที่เปิดและส่วนใดที่ปิดได้อย่างรวดเร็ว
Settings (การตั้งค่า)
เมนูการตั้งค่าช่วยให้คุณปรับแต่งและเปลี่ยนแปลงตัวแปรการกำหนดค่าบนจอแสดงผล
About (เกี่ยวกับ)
เมนูเกี่ยวกับระบุหมายเลขรุ่น หมายเลขซีเรียล และเวอร์ชันซอฟต์แวร์ของอุปกรณ์
Service (ซ่อมบำรุง)
รายการเมนู
คำอธิบาย
Hours
แสดงจำนวนชั่วโมงโดยรวมที่อุปกรณ์ เครื่องยนต์ และ PTO เปิดทำงาน รวมถึงจำนวนชั่วโมงที่มีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ และเวลาถึงกำหนดซ่อมบำรุง
Counts
แสดงแสดงค่าการนับต่างๆ ของอุปกรณ์
Diagnostics (การวินิจฉัย)
รายการเมนู
คำอธิบาย
Cutting Units
ระบุอินพุต ข้อมูลระบุ และเอาต์พุตสำหรับการยกชุดตัดหญ้าขึ้นและลง 
Hi/Low Range
ระบุอินพุต ข้อมูลระบุ และเอาต์พุตสำหรับการขับขี่ในโหมดเคลื่อนย้าย 
PTO
ระบุอินพุต ข้อมูลระบุ และเอาต์พุตสำหรับการใช้วงจร PTO 
Engine Run
ระบุอินพุต ข้อมูลระบุ และเอาต์พุตสำหรับการสตาร์ทเครื่องยนต์ 
Backlap
ระบุอินพุต ข้อมูลระบุ และเอาต์พุตสำหรับการใช้งานฟังก์ชันลับคม 
Settings (การตั้งค่า)
รายการเมนู
คำอธิบาย
Units (หน่วยวัด)
ควบคุมหน่วยวัดที่ใช้บนจอแสดงผล ตัวเลือกในเมนู ได้แก่ อังกฤษหรือเมตริก
Language (ภาษา)
ควบคุมภาษาที่ใช้บนจอแสดงผล*
LCD Backlight (แสงพื้นหลังของจอ LCD)
ควบคุมความสว่างของจอ LCD 
LCD Contrast (คอนทราสต์ของจอ LCD)
ควบคุมคอนทราสต์ของจอ LCD 
Front Backlap Reel Speed (ความเร็วลับคมใบมีดพวงด้านหน้า)
ควบคุมความเร็วของใบมีดพวงด้านหน้าในโหมดลับคม 
Rear Backlap Reel Speed (ความเร็วลับคมใบมีดพวงด้านหลัง)
ควบคุมความเร็วของใบมีดพวงด้านหลังในโหมดลับคม 
Protected Menus (เมนูที่ได้รับการป้องกัน)Image
อนุญาตให้บุคคลที่ได้รับอนุญาต (หัวหน้างาน/ช่างซ่อมบำรุง) จากบริษัทและมีรหัส PIN เข้าถึงเมนูที่ได้รับการป้องกันได้
เดินรอบเบาอัตโนมัติ (Auto IdleImage)
ควบคุมจำนวนเวลาที่อนุญาตให้เครื่องยนต์ทำงานก่อนจะกลับไปเดินรอบเบาขณะที่อุปกรณ์จอดอยู่
Blade Count (จำนวนใบมีด) Image
ควบคุมจำนวนใบมีดบนใบมีดพวงสำหรับความเร็วใบมีดพวง 
Height of cut (HOC) (ความสูงในการตัด (HOC)) Image
ควบคุมความสูงในการตัด (HOC) เพื่อกำหนดความเร็วใบมีดพวง 
F Reel RPM (รอบต่อนาทีของใบมีดพวงด้านหน้า) Image
แสดงตำแหน่งความเร็วใบมีดพวงที่คำนวณไว้สำหรับใบมีดพวงด้านหน้า นอกจากนี้ยังสามารถปรับใบมีดพวงแบบแมนวลได้ด้วย 
R Reel RPM (รอบต่อนาทีของใบมีดพวงด้านหลัง) Image
แสดงตำแหน่งความเร็วใบมีดพวงที่คำนวณไว้สำหรับใบมีดพวงด้านหลัง นอกจากนี้ยังสามารถปรับใบมีดพวงแบบแมนวลได้ด้วย 
Mow Speed (ความเร็วการตัดหญ้า) Image
ควบคุมความเร็วขับเคลื่อนบนพื้นเพื่อการกำหนดความเร็วใบมีดพวง
* แปลเฉพาะข้อความที่ผู้ใช้อ่านเท่านั้น หน้าจอความขัดข้อง การซ่อมบำรุง และการวินิจฉัยเป็น หน้าจอซ่อมบำรุงชื่อจะเป็นภาษาที่เลือก แต่รายการเมนูเป็นภาษาอังกฤษ
Image ได้รับการป้องกันไว้ภายใต้เมนูที่ได้รับการป้องกันต้องป้อน PIN เพื่อเข้าถึงเท่านั้น
About (เกี่ยวกับ)
รายการเมนู
คำอธิบาย
Model
แสดงหมายเลขรุ่นของอุปกรณ์
SN
แสดงหมายเลขซีเรียลของอุปกรณ์ 
Machine Controller Revision
แสดงรุ่นซอฟต์แวร์ของส่วนควบคุมหลัก 
รุ่นจอแสดงผล
แสดงรุ่นซอฟต์แวร์ของจอแสดงผล
CAN Bus
แสดงสถานะบัสการสื่อสารของอุปกรณ์ 
Protected Menus (เมนูที่ได้รับการป้องกัน)
การกำหนดค่าการทำงานบางอย่างสามารถปรับได้ใน เมนูการตั้งค่า ของจอแสดงผล หากต้องการล็อกการตั้งค่าเหล่านี้ โปรดใช้ เมนูที่ได้รับการป้องกัน 
หมายเหตุ: ตอนที่จัดส่งอุปกรณ์ ตัวแทนจำหน่ายของคุณจะตั้งค่ารหัสผ่านเบื้องต้นไว้ให้
การเข้าถึงเมนูที่ได้รับการป้องกัน
หมายเหตุ: รหัส PIN ที่เป็นค่าเริ่มต้นมาจากโรงงานสำหรับอุปกรณ์ของคุณอาจเป็น 0000 หรือ 1234 
หากคุณเปลี่ยนรหัส PIN และลืมรหัส โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Toro เพื่อขอความช่วยเหลือ
    Graphic
    G438980
  1. จาก เมนูหลักกดปุ่มกลางเพื่อเลื่อนลงมายัง เมนูการตั้งค่า จากนั้นกดปุ่มขวา
  2. Graphic
    G438981
  3. ใน เมนูการตั้งค่ากดปุ่มกลางเพื่อเลื่อนลงมายัง เมนูที่ได้รับการป้องกัน จากนั้นกดปุ่มขวา
  4. ป้อนรหัส PIN โดยกดปุ่มกลาง จนกว่าเลขหลักแรกที่ถูกต้องจะปรากฏ จากนั้นกดปุ่มขวา เพื่อเลื่อนไปหลักถัดไป ทำซ้ำขั้นตอนนี้จนป้อนหลักสุดท้ายเสร็จ จากนั้นกดปุ่มขวาอีกหนึ่งครั้ง
  5. กดปุ่มกลาง เพื่อป้อนรหัส PIN รอจนกว่าไฟสถานะสีแดงของจอแสดงผลจะสว่างขึ้น
    หมายเหตุ: หากจอแสดงผลยอมรับรหัส PIN และเมนูที่ได้รับการป้องกันปลดล็อก คำว่า “PIN�? จะปรากฏขึ้นมาที่มุมบนขวาของหน้าจอ
  6. หากต้องการล็อกเมนูที่ได้รับการป้องกัน ให้หมุนสวิตช์กุญแจไปยังตำแหน่งปิด จากนั้นหมุนไปที่ตำแหน่งเปิด
การตั้งค่าการเดินรอบเบาอัตโนมัติ
  1. ใน เมนูการตั้งค่าเลื่อนลงมายัง เดินรอบเบาอัตโนมัติ (Auto Idle) 
  2. กดปุ่มขวาเพื่อเปลี่ยนเวลาสำหรับการเดินรอบเบาอัตโนมัติ โดยสามารถเลือกปิด, 8, 10, 15, 20 หรือ 30 วินาที
การตั้งค่าจำนวนใบมีด
  1. ใน เมนูการตั้งค่าเลื่อนลงมายัง Blade Count (จำนวนใบมีด) 
  2. กดปุ่มขวาเพื่อเปลี่ยนจำนวนใบมีดพวงระหว่าง 5, 8 หรือ 11 ใบมีด
การตั้งค่าความเร็วการตัดหญ้า
  1. ใน เมนูการตั้งค่าเลื่อนลงมายัง Mow Speed (ความเร็วการตัดหญ้า) จากนั้นกดปุ่มขวา
  2. ใช้ปุ่มกลางและปุ่มขวาเพื่อเลือกความเร็วการตัดหญ้าที่เหมาะสมที่ตั้งค่าไว้บนสวิตช์จำกัดความเร็วการตัดหญ้าบนแป้นขับเคลื่อน
  3. กดปุ่มซ้ายเพื่อออกจากเมนูความเร็วการตัดหญ้าและบันทึกการตั้งค่า
การตั้งค่าความสูงในการตัด (HOC)
  1. ใน เมนูการตั้งค่าเลื่อนลงมายัง HOC 
  2. กดปุ่มขวาเพื่อเลือก HOC 
  3. ใช้ปุ่มกลางและปุ่มขวาเพื่อเลือกการตั้งค่า HOC หากไม่มีการตั้งค่าที่พอดีแสดงขึ้นมา ให้เลือกการตั้งค่า HOC ที่ใกล้เคียงที่สุดจากรายการที่แสดง
  4. กดปุ่มซ้ายเพื่อออกจาก HOC และบันทึกการตั้งค่า

ระหว่างการใช้งาน

การสตาร์ทเครื่องยนต์
สำคัญ  
ไล่อากาศระบบเชื้อเพลิง หากเกิดสถานการณ์ต่อไปนี้ขึ้น:
  • เครื่องยนต์ดับเพราะน้ำมันเชื้อเพลิงหมด
  • มีการบำรุงรักษาตามส่วนประกอบของระบบเชื้อเพลิง
 
  1. นั่นบนเบาะที่นั่งคนขับ เข้าเบรกจอด และยกเท้าออกจากแป้นขับเคลื่อน
  2. ปรับคันโยกลิ้นเร่งไปยังตำแหน่งช้า
  3. บิดกุญแจไปที่ตำแหน่งทำงาน
    ไฟหัวเทียนแสดงอยู่บนจอแสดงผล InfoCenter
  4. เมื่อไฟหัวเทียนดับลงไป บิดกุญแจไปยังตำแหน่งสตาร์ท
    สำคัญ  
    ห้ามสตาร์ทมอเตอร์นานเกิน 15 วินาทีในแต่ละครั้ง มิฉะนั้นอาจทำให้สตาร์ทเตอร์ชำรุดก่อนกำหนด หากเครื่องยนต์ไม่สตาร์ทหลังจาก 15 วินาที ให้บิดกุญแจไปตำแหน่งปิด ตรวจสอบการควบคุมและขั้นตอน รออีก 15 วินาที และทำซ้ำขั้นตอนการสตาร์ทอีกครั้ง
    เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า -7°C (20°F) มอเตอร์สตาร์ทเตอร์สามารถทำงานได้นาน 30 วินาที และปิด 60 วินาที จำนวน 2 ครั้ง
     
  5. หลังจากเครื่องยนต์สตาร์ท ให้ปล่อยกุญแจ
  6. ปรับความเร็วเครื่องยนต์
การดับเครื่องยนต์
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ
  2. กดสวิตช์ PTO ไปที่ตำแหน่งปลด
  3. ปรับคันโยกลิ้นเร่งไปยังตำแหน่งช้า
  4. เข้าเบรกจอด
  5. ลดชุดตัดหญ้าลง
    สำคัญ  
    การลดชุดตัดหญ้าลงเป็นการระบายโหลดไฮดรอลิกออกจากระบบ ป้องกันการสึกหรอบนชิ้นส่วนระบบ และป้องกันการลดชุดตัดหญ้าลงโดยไม่ได้ตั้งใจ
     
  6. หมุนกุญแจไปที่ตำแหน่งปิด แล้วดึงกุญแจออก
  7. รอให้ชิ้นส่วนเคลื่อนไหวหยุดนิ่ง
การล็อกองศาการหมุนของชุดตัดหญ้า
การตัดหญ้าบนทางลาดชัน
ล็อกองศาการหมุนของชุดตัดหญ้าเพื่อป้องกันไม่ให้ชุดตัดหญ้าหมุนลงเนินขณะตัดหญ้าบนเนินลาดชัน
    Graphic
    G423878
  1. ยึดโครงส่วนบรรทุก ของชุดตัดหญ้าเข้ากับข้อต่อแกนหมุน ด้วยหมุดสแนปเปอร์
  2. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 สำหรับชุดตัดหญ้าที่เหลือ
การปรับสปริงชดเชยสภาพสนาม
สปริงชดเชยสภาพสนามทำหน้าที่ส่งต่อน้ำหนักจากลูกกลิ้งหน้าไปยังลูกกลิ้งหลัง ซึ่งจะช่วยลดรอยลูกคลื่นบนสนามได้ นิยมเรียกว่ามาร์เซลลิง (Marcelling) หรือบ็อบบิง (Bobbing)
สำคัญ  
ปรับสปริงโดยให้ชุดตัดหญ้ายังต่อกับรถตัดหญ้า และหันตรงไปข้างหน้า และลดระดับลงมาบนพื้น
 
    Graphic
    G402845
  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิ๊นตัวอาร์ ติดตั้งอยู่ในรูส่วนท้ายภายในก้านสปริง
    หมายเหตุ: ขณะซ่อมบำรุงชุดตัดหญ้า ให้เคลื่อนปิ๊นตัวอาร์เข้าไปในรูก้านสปริงข้างๆ สปริงชดเชยสภาพสนาม
  2. ขันน็อตหกเหลี่ยม ที่ปลายด้านหน้าของก้านสปริงจนได้ความยาวสปริงตอนหดอยู่ที่ 15.9 ซม. (6.25 นิ้ว)
    หมายเหตุ: ขณะใช้งานบนพื้นสนามขรุขระ ลดความยาวสปริงลงเหลือ 13 มม. (1/2 นิ้ว) สมรรถนะการขับเคลื่อนตามสภาพพื้นผิวจะลดลงเล็กน้อย
    หมายเหตุ: การตั้งค่าชดเชยสภาพสนามจะต้องรีเซ็ตใหม่ หากเปลี่ยนการตั้งค่าความสูงในการตัดหรือความรุนแรงในการตัด
การตัดหญ้าด้วยอุปกรณ์นี้
  1. ขับอุปกรณ์เข้าไปในสนาม และจอดอุปกรณ์ด้านนอกบริเวณที่จะตัดหญ้าเพื่อเตรียมตัดหญ้าแถบแรก
  2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสวิตช์ PTO ตั้งค่าในตำแหน่งปลดทำงาน
    Graphic
    G468221
    1. คันโยกลิ้นเร่ง
    2. สวิตช์ PTO
    3. คันควบคุมการยก/ลดชุดตัดหญ้า
  3. ใช้เท้าดันคันโยกของสวิตช์จำกัดความเร็วการตัดหญ้าไปด้านหน้าไปยังตำแหน่ง ตัดหญ้า
    Graphic
    G423890
    1. สวิตช์จำกัดความเร็วการตัดหญ้า
  4. ปรับคันโยกลิ้นเร่งไปยังตำแหน่งเร็ว
  5. กดสวิตช์ PTO ไปที่ตำแหน่งใช้งาน
  6. เริ่มขับอุปกรณ์ไปยังบริเวณที่จะตัดหญ้า จากนั้นดันคันควบคุมการยก/ลดชุดตัดหญ้าไปด้านหน้า
    หมายเหตุ: ชุดตัดหญ้าจะเริ่มทำงานเมื่อลดระดับลงมา ชุดตัดหญ้าด้านหน้าจะลดระดับลงมาก่อนชุดตัดหญ้าด้านหลัง
  7. หลังจากตัดหญ้าแถบแรกเสร็จแล้ว ดันโยกของสวิตช์จำกัดความเร็วการตัดหญ้าไปด้านหลังเพื่อยกชุดตัดหญ้าขึ้น
  8. เลี้ยวเป็นวงแคบ (วงเลี้ยวรูปหยดน้ำ) เพื่อให้เตรียมตัดหญ้าแถวถัดไปได้อย่างรวดเร็ว
การขับขี่อุปกรณ์ในโหมดเคลื่อนย้าย
    Graphic
    G468222
  1. กดสวิตช์ PTO ไปที่ตำแหน่งปลดทำงาน
  2. ดันคันควบคุมการยก/ลดชุดตัดหญ้า มาด้านหลังเพื่อยกชุดตัดหญ้าขึ้น (ตำแหน่งเคลื่อนย้าย)
  3. Graphic
    G423893
  4. ดันคันโยกของสวิตช์จำกัดความเร็วการตัดหญ้า มาด้านหลังไปยังตำแหน่งเคลื่อนย้าย
  5. เหยียบแป้นขับเคลื่อนเพื่อขับอุปกรณ์เดินหน้า
    สำคัญ  
    ใช้ความระมัดระวังขณะขับขี่ลอดระหว่างวัตถุเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์หรือชุดตัดหญ้าเสียหายโดยไม่ได้ตั้งใจ ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อใช้งานอุปกรณ์บนทางลาด ขับขี่ช้าๆ และหลีกเลี่ยงการเลี้ยวหักศอกบนทางลาดเพื่อป้องกันการพลิกคว่ำ
     
การปรับการถ่วงน้ำหนักชุดตัดหญ้า
ชุดตัดหญ้าส่วนท้าย
ข้อควรระวัง
สปริงมีแรงดีด การปรับสปริงอาจทำให้บาดเจ็เล็กน้อยหรือปานกลาง
ใช้ความระมัดระวังขณะปรับสปริง
 
ปรับแรงถ่วงน้ำหนักบนแขนยกของชุดตัดหญ้าด้านหลังเพื่อชดเชยสภาพสนามแบบต่างๆ และรักษาความสูงในการตัดให้สม่ำเสมอในสภาพสนามที่ขรุขระหรือในบริเวณที่มีเศษหญ้าสะสม
ปรับแรงถ่วงน้ำหนักของสปริงดีดแต่ละตัว 1 ระดับจากการตั้งค่า 4 ระดับ ซึ่งแต่ละระดับจะเพิ่มหรือลดแรงถ่วงน้ำหนักชุดตัดหญ้า 2.3 กก. (5 ปอนด์)
หมายเหตุ: หากต้องการถอดแรงถ่วงน้ำหนักทั้งหมด วางขายาวของสปริงดีดไว้ใต้สลักเกลียว แหวน ตัวคั่น และน็อตล็อก
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ ลดชุดตัดหญ้าลงมา เข้าเบรกจอด ดับเครื่องยนต์ และดึงกุญแจออกออก
  2. ใช้ท่อหรือวัสดุที่คล้ายกันครอบบนขาด้านยาวของสปริง จากนั้นยกขาสปริงขึ้นเพื่อระบายแรงดันบนตัวคั่น
    หมายเหตุ: ให้อีกคนหนึ่งช่วยยกและกดขาสปริง
    Graphic
    G424029
    1. แขนยก (ด้านท้ายชุดตัดหญ้า #2 หรือ #3)
    2. สปริงดีด
    3. น็อตล็อก
    4. แผ่นเพลทแขนยก
    5. ตัวคั่น
    6. แหวน
    7. สลักเกลียว
  3. จับสปริงค้างไว้ จากนั้นถอดสลักเกลียว แหวน และน็อตล็อกออกจากแผ่นเพลทแขนยก
  4. ดันขาสปริงไปเหนือตำแหน่งรูที่ต้องการ
  5. ประกอบสลักเกลียว แหวน ตัวคั่น และน็อตล็อกในตำแหน่งรูดังกล่าว
  6. ค่อยๆ กดขาสปริงลงบนตัวคั่น
  7. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 2 ถึง 6 กับแขนยกชุดตัดหญ้า
การปรับความสูงการหมุนรอบของชุดตัดหญ้า
สวิตช์แขนยก อยู่หลังแขนยกด้านหน้าฝั่งขวา (ชุดตัดหญ้า 5)
    Graphic
    G424043
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ ลดชุดตัดหญ้าลงมา เข้าเบรกจอด ดับเครื่องยนต์ และดึงกุญแจออกออก
  2. คลายสกรูหน้าแปลน 2 ตัว ที่ยึดโครงยึดสวิตช์ เข้ากับโครงส่วนบรรทุกสำหรับแขนยกชุดตัดหญ้าด้านหน้า
  3. เลื่อนโครงยึดสวิตช์ตามขั้นตอนต่อไปนี้
    • หากต้องการเพิ่มความสูงการหมุนรอบของชุดตัดหญ้า เลื่อนโครงยึดขึ้น
    • หากต้องการลดความสูงการหมุนรอบของชุดตัดหญ้า เลื่อนโครงยึดลง
  4. ขันสกรูหน้าแปลน 2 ตัวให้แน่น
การพับโรลบาร์
  • ขันน็อต สลักเกลียว และสกรูให้ให้มีแรงบิดที่ถูกต้อง เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์มีสภาพการทำงานที่ปลอดภัย
  • เปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอหรือเสียหายเพื่อความปลอดภัย
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเข็มขัดนิรภัยและที่ยึดมีสภาพดีและทำงานได้อย่างปลอดภัย
  • คาดเข็มขัดนิรภัยเมื่อยกโรลบาร์ขึ้น และไม่คาดเข็มขัดนิรภัยเมื่อลดโรลบาร์ลงมา
คุณสามารถพับโรลบาร์ลงเพื่อให้อุปกรณ์ลอดบริเวณที่มีความสูงจำกัดได้
คำเตือน
อุปกรณ์จะไม่มีระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ROPS) เมื่อพับโรลบาร์ลงมา และไม่ควรถือว่าเป็น ROPS
อย่าคาดเข็มขัดนิรภัยเมื่อพับโรลบาร์ลงมา
 
ข้อควรระวัง
ขณะยกโรลบาร์ขึ้นและลง นิ้วของคุณอาจจะถูกเครื่องยนต์กับโรลบาร์หนีบได้ และส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยหรือปานกลาง
ใช้ความระมัดระวังขณะขณะยกโรลบาร์ขึ้นและลง
 
คำเตือน
โรลบาร์เป็นอุปกรณ์นิรภัยที่สำคัญ แต่ไม่ได้ปกป้องคุณการบาดเจ็บหรือการเสียชีวิตที่เกิดจากอุปกรณ์พลิกคว่ำ เว้นแต่จะยึดโรลบาร์ไว้ในตำแหน่งยกและคุณคาดเข็มขัดนิรภัย
  • โรลบาร์ต้องอยู่ในตำแหน่งยกขึ้นขณะใช้งานอุปกรณ์
  • ยกโรลบาร์ลงชั่วคราวเมื่อจำเป็นเท่านั้น จากนั้นยกโรลบาร์กลับขึ้นไปและล็อกไว้ในตำแหน่งยกทันที แล้วค่อยใช้อุปกรณ์ต่อ
 
สำคัญ  
โรลบาร์เป็นอุปกรณ์นิรภัยที่สำคัญ โรลบาร์ต้องอยู่ในตำแหน่งยกขึ้นขณะใช้งานเครื่องตัดหญ้า ลดโรลบาร์ลงมาชั่วคราวเฉพาะเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
 
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ ลดชุดตัดหญ้าลงมา เข้าเบรกจอด ดับเครื่องยนต์ และดึงกุญแจออกออก
  2. ถอดหมุดสลักที่ทำหน้าที่ยึดหมุดโรลบาร์ที่แต่ละด้าน
    Graphic
    G424045
    1. หมุดสลัก
    2. รูด้านบน (โครงยึด)
    3. หมุดโรลบาร์
    4. หมุดโรลบาร์และหมุดสลัก (รูด้านล่างโครงยึด)
  3. หาวัสดุมารองรับน้ำหนักของท่อโรลบาร์ส่วนบนขณะถอดหมุดโรลบาร์ออกจากโครงยึด
  4. ค่อยๆ ลดระดับท่อโรลบาร์ส่วนบนลงมาจนกระทั่งสามารถวางบนจุดหยุดได้
  5. สอดหมุดโรลบาร์เข้าไปในรูด้านล่างของโครงยึด จากนั้นใช้หมุดสลักยึดหมุดโรลบาร์เข้ากับโครงยึด
การยกโรลบาร์
คำเตือน
ระบบป้องกัน ROPS อาจใช้ไม่ได้ผลหากหมุดโรลบาร์หลวม ในกรณีที่อุปกรณ์พลิกคว่ำ อาจทำให้ผู้ปฏิบัติงานเสียชีวิตหรือบาดเจ็บร้ายแรงได้
เมื่อโรลบาร์อยู่ในตำแหน่งยก คุณต้องติดตั้งหมุดโรลบาร์และหมุดสลักให้ครบทั้งสองชุดเพื่อให้ ROPS ปกป้องคุณได้อย่างเต็มรูปแบบ
 
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ ลดชุดตัดหญ้าลงมา เข้าเบรกจอด ดับเครื่องยนต์ และดึงกุญแจออกออก
  2. Graphic
    G424046
  3. ถอดหมุดสลัก ที่ทำหน้าที่ยึดหมุดโรลบาร์ ที่แต่ละด้าน
  4. การถอดหมุดโรลบาร์ออกจากโครงยึด
  5. ค่อยๆ ยกท่อโรลบาร์ส่วนบนขึ้นอย่างระมัดระวังจนกระทั่งรูบนโครงยึดตรงกับรูบนท่อโรลบาร์ส่วนล่าง
  6. สอดหมุดโรลบาร์เข้าไปในรูบนโครงยึดและท่อโรลบาร์ส่วนล่าง
  7. ยึดหมุดโรลบาร์เข้ากับโครงยึดและท่อโรลบาร์ส่วนล่างด้วยหมุดสลักหมุดสลัก
เคล็ดลับในการใช้งาน
การทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์
  • ก่อนตัดหญ้า ฝึกใช้งานอุปกรณ์ในพื้นที่โล่งกว้างๆ
  • สตาร์ทและดับเครื่องยนต์
  • ควบคุมให้อุปกรณ์เดินหน้าและถอยหลัง
  • ยกชุดตัดหญ้าขึ้นและลง รวมทั้งใช้งานและหยุดชุดตัดหญ้า
  • เมื่อคุณคุ้นเคยกับอุปกรณ์มากขึ้นแล้ว ฝึกขับขึ้นลงทางลาดด้วยความเร็วหลายๆ ระดับ
ภาพรวมเกี่ยวกับระบบเตือน
หาก InfoCenter แสดงคำแนะนำสำหรับผู้ปฏิบัติงานหรือรหัสความบกพร่องระหว่างการใช้งาน ให้หยุดอุปกรณ์ทันทีและแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อยก่อนใช้งานอุปกรณ์ต่อ หากคุณใช้งานอุปกรณ์ที่ทำงานผิดปกติ อาจเกิดความเสียหายร้ายแรงขึ้นได้

หลังการใช้งาน

การเข็นหรือลากอุปกรณ์

คำเตือน
ระหว่างที่วาล์วบายพาสลากพ่วงเปิดอยู่ อุปกรณ์อาจจะเคลื่อนที่เอง ส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บร้ายแรงได้
ดังนั้นควรเข้าเบรกจอดเอาไว้ตอนที่ไม่ได้ดันหรือลากพ่วงอุปกรณ์
 
ในกรณีฉุกเฉิน คุณสามารถเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ได้โดยการใช้วาล์วบายพาสลากพ่วงของปั๊มไฮดรอลิกขับเคลื่อน และติดตั้งท่อไฮดรอลิกเพื่อบายพาสเช็กวาล์ว จากนั้นค่อยดันหรือลากอุปกรณ์
หากคุณจำเป็นต้องดันหรือลากอุปกรณ์ คุณอาจจะต้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทั้งเดินหน้าและถอยหลัง ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ระบบขับเคลื่อนเสียหายจากการดันหรือลาก ควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมทั้งสำหรับการดันหรือลากเดินหน้าและถอยหลัง
การเตรียมอุปกรณ์สำหรับการดันหรือลากถอยหลัง
ติดตั้งชุดอุปกรณ์สำหรับการลากถอยหลัง
อะไหล่ที่จำเป็นต้องใช้ (ซื้อแยก): ชุดอุปกรณ์สำหรับการลากถอยหลัง, หมายเลขอะไหล่ Toro 136-3620
สำคัญ  
หากคุณต้องการดันหรือลากอุปกรณ์ถอยหลัง คุณต้องบายพาสเช็กวาล์วในท่อร่วมไอดีขับเคลื่อน 4 ล้อก่อน
 
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ เข้าเบรกจอด ลดชุดตัดหญ้าลงมา ดับเครื่องยนต์ และดึงกุญแจออก
  2. ประกอบท่อบายพาสเข้ากับข้อต่อตรงบนชุดอุปกรณ์สำหรับการลากถอยหลังไว้หลวมๆ โปรดดูคู่มือการติดตั้งชุดอุปกรณ์สำหรับการลากถอยหลัง
  3. ถอดฝาครอบกันฝุ่นและข้อต่อทดสอบออกจากช่องทดสอบบนท่อขับเคลื่อนถอยหลัง
  4. ประกอบข้อต่อตรงของท่อบายพาสเข้ากับช่องทดสอบ แล้วขันข้อต่อกับท่อให้แน่น
  5. ถอดปลั๊กอุดหัวจมหกเหลี่ยม #6 ออกจากช่องที่ไม่มีเครื่องหมาย (อยู่ระหว่างข้อต่อในช่อง M8 กับช่อง P2) บนท่อร่วมขับเคลื่อนด้านหลัง
  6. ประกอบข้อต่อตรงอีกอันหนึ่งของท่อบายพาสลงในช่องท่อร่วมขับเคลื่อนด้านหลังที่ไม่มีเครื่องหมาย แล้วขันข้อต่อกับท่อให้แน่น
  7. Graphic
    G424062
  8. เปิดวาล์วบายพาสลากพ่วง โดยหมุนวาล์ว 90° (1/4 รอบ) ไปทางไหนก็ได้
    หมายเหตุ: จดบันทึกตำแหน่งของวาล์วตอนเปิดและปิดเอาไว้
  9. ดันหรือลากอุปกรณ์
    สำคัญ  
    อย่าดันหรือลากอุปกรณ์เร็วกว่า 3 ถึง 4.8 กม./ชม. (2 ถึง 3 ไมล์ต่อชั่วโมง) หรือไกลกว่า 0.4 กม. (1/4 ไมล์) เพราะอาจทำให้ระบบไฮดรอลิกเสียหายได้ ต้องเปิดวาล์วบายพาสเมื่อต้องเข็นหรือลากอุปกรณ์
     
การเตรียมอุปกรณ์สำหรับการใช้งาน
ถอดชุดอุปกรณ์สำหรับการลากถอยหลัง
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ เข้าเบรกจอด ลดชุดตัดหญ้าลงมา ดับเครื่องยนต์ และดึงกุญแจออก
  2. ถอดข้อต่อตรงและท่อบายพาสของชุดอุปกรณ์สำหรับการลากถอยหลังออกจากช่องทดสอบบนท่อขับเคลื่อนถอยหลัง โปรดดูคู่มือการติดตั้งชุดอุปกรณ์สำหรับการลากถอยหลัง
  3. ประกอบข้อต่อทดสอบและฝาครอบกันฝุ่นเข้ากับช่องทดสอบ
  4. ถอดข้อต่อตรงอีกอันหนึ่งของท่อบายพาสออกจากช่องท่อร่วมขับเคลื่อนด้านหลังที่ไม่มีเครื่องหมาย (อยู่ระหว่างข้อต่อในช่อง M8 และ P2)
  5. ติดตั้งปลั๊กอุดหัวจมหกเหลี่ยม #6 จากชุดอุปกรณ์สำหรับการลากถอยหลังเข้ากับช่องที่ไม่มีเครื่องหมายบนท่อร่วมขับเลื่อนด้านหลัง
  6. Graphic
    G424062
  7. ปิดวาล์วบายพาสลากพ่วง โดยหมุนวาล์วกลับ 90° (1/4 รอบ) แล้วค่อยสตาร์ทเครื่องยนต์
    หมายเหตุ: อย่าขันปิดวาล์วด้วยแรงบิดเกิน 7 ถึง 11 นิวตันเมตร (5 ถึง ฟุตปอนด์))
การดันหรือลากอุปกรณ์เดินหน้า
  1. เปิดกระโปรงของอุปกรณ์และถอดจุดประกบตรงกลาง
  2. เปิดวาล์วบายพาสลากพ่วง โดยหมุนวาล์ว 90° (1/4 รอบ) ไปทางไหนก็ได้
    หมายเหตุ: จดบันทึกตำแหน่งของวาล์วตอนเปิดและปิดเอาไว้
    Graphic
    G424062
  3. ดันหรือลากอุปกรณ์เดินหน้า
    สำคัญ  
    อย่าดันหรือลากอุปกรณ์เร็วกว่า 3 ถึง 4.8 กม./ชม. (2 ถึง 3 ไมล์ต่อชั่วโมง) หรือไกลกว่า 0.4 กม. (1/4 ไมล์) เพราะอาจทำให้ระบบไฮดรอลิกเสียหายได้ ต้องเปิดวาล์วบายพาสเมื่อต้องเข็นหรือลากอุปกรณ์
     
  4. เมื่ออุปกรณ์พร้อมใช้งาน ให้ปิดวาล์วบายพาสลากพ่วง โดยหมุนวาล์วกลับ 90° (1/4 รอบ) แล้วค่อยสตาร์ทเครื่องยนต์
    หมายเหตุ: อย่าขันปิดวาล์วด้วยแรงบิดเกิน 7 ถึง 11 นิวตันเมตร (5 ถึง ฟุตปอนด์))
ตำแหน่งจุดผูกยึด
Graphic
G424086
  1. จุดผูกยึดด้านหน้า
  2. จุดผูกยึดด้านท้าย

การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์

  1. ทำตามเคล็ดลับด้านล่างเมื่อต้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์
    • ใช้ทางลาดแบบเต็มความกว้างเพื่อย้ายอุปกรณ์ขึ้นรถพ่วงหรือรถบรรทุก
    • ยึดอุปกรณ์ให้แน่นหนา
 
 
 
การบำรุงรักษา
 
หมายเหตุ: ดูด้านซ้ายและขวาของอุปกรณ์จากตำแหน่งปกติในการควบคุมเครื่อง
หมายเหตุ: ดาวน์โหลดสำเนาผังไฟฟ้าหรือระบบไฮดรอลิกได้ฟรี โดยเข้าไปที่ www.Toro.com แล้วค้นหารุ่นรถของคุณจากลิงก์คู่มือในหน้าหลัก
สำคัญ  
โปรดดูขั้นตอนการบำรุงรักษาเพิ่มเติมในคู่มือเจ้าของเครื่องยนต์และคู่มือผู้ใช้ของชุดตัดหญ้า
 
กำหนดการบำรุงรักษาที่แนะนำ
รอบระยะเวลา
ซ่อมบำรุง
ขั้นตอนซ่อมบำรุง
หมายเลขอะไหล่
จำนวน
คำอธิบาย
หลังจาก 8 ชั่วโมงแรก
-
-
-
หลังจาก 50 ชั่วโมงแรก
-
-
-
หลังจาก 200 ชั่วโมงแรก
-
-
-
ก่อนการใช้งานแต่ละครั้งหรือทุกวัน
-
-
-
-
-
-
108-3814
1
ตัวกรองอากาศชั้นนอก
108-3816
1
ตัวกรองอากาศชั้นใน
ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง เติมน้ำมันเครื่องตามความจำเป็น
121-6393
1
น้ำมันเครื่องพรีเมียมของ 10W-30 19 ลิตร (5 แกลลอน)
121-6392
1
น้ำมันเครื่องพรีเมียมของ 10W-30 19 ลิตร (55 แกลลอน)
121-6395
1
น้ำมันเครื่องพรีเมียมของ 15W-40 19 ลิตร (5 แกลลอน)
121-6394
1
น้ำมันเครื่องพรีเมียมของ 15W-40 19 ลิตร (55 แกลลอน)
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
การซ่อมบำรุงระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์ (ซ่อมบำรุงให้บ่อยขึ้นหากใช้งานในสภาวะที่สกปรกมากหรือมีฝุ่นมาก)
-
-
-
-
-
-
-
-
-
ทุก 50 ชั่วโมง
อัดจาระบีแบริ่งและบุชชิ่ง (และทันทีหลังจากการล้างทุกครั้ง)
108-1190
1
จาระบีอเนกประสงค์ระดับพรีเมียม 0.39 มล. (14 ออนซ์)
-
-
-
ทุก 100 ชั่วโมง
120-5824
1
สายพานอัลเทอร์เนเตอร์
ทุก 200 ชั่วโมง
-
-
-
ทุก 400 ชั่วโมง
ซ่อมบำรุงตัวกรองอากาศ (ซ่อมบำรุงให้บ่อยขึ้นหากใช้งานในสภาวะที่สกปรกมากหรือมีฝุ่นมาก) ซ่อมบำรุงระบบกรองอากาศก่อนถึงกำหนด หากแถบสถานะระบบกรองอากาศเป็นสีแดง
108-3814
1
ตัวกรองอากาศชั้นนอก
108-3816
1
ตัวกรองอากาศชั้นใน
-
-
-
110-9049
1
ตัวกรองน้ำของระบบเชื้อเพลิง
-
-
-
ตรวจสอบระดับน้ำมันชุดขับเฟืองแพลเนต (ตรวจสอบหากสังเกตเห็นการรั่วไหลจากภายนอก)
-
-
-
ตรวจสอบระดับน้ำมันของเพลาท้าย (และก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งแรก)
-
-
-
ตรวจสอบน้ำมันหล่อลื่นในตัวเรือนของเกียร์ทดรอบ (และก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งแรก)
-
-
-
ทุก 800 ชั่วโมง
-
-
-
เปลี่ยนน้ำมันขับเฟืองแพลเนตด้านหน้า หรือปีละครั้ง แล้วแต่ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นก่อน
-
-
-
-
-
-
-
-
-
หากคุณไม่ได้ใช้น้ำมันไฮดรอลิกที่แนะนำ หรือเคยเติมน้ำมันทางเลือกลงในถัง ให้เปลี่ยนตัวกรองไฮดรอลิก
75-1310
1
ตัวกรองไฮดรอลิก
94-2621
1
ตัวกรองไฮดรอลิก
หากคุณไม่ได้ใช้น้ำมันไฮดรอลิกที่แนะนำ หรือเคยเติมถังน้ำมันด้วยน้ำมันทางเลือกมาก่อน ให้เปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิก
133-8086
1
น้ำมันไฮดรอลิกชนิดอายุการใช้งานยาวนาน PX 19 ลิตร (5 แกลลอน)
133-8087
1
น้ำมันไฮดรอลิกชนิดอายุการใช้งานยาวนาน PX 19 ลิตร (5 แกลลอน)
ทุก 1,000 ชั่วโมง
หากคุณใช้น้ำมันไฮดรอลิกที่แนะนำ ให้เปลี่ยนตัวกรองไฮดรอลิก
75-1310
1
ตัวกรองไฮดรอลิก
94-2621
1
ตัวกรองไฮดรอลิก
ทุก 2,000 ชั่วโมง
หากคุณใช้น้ำมันไฮดรอลิกที่แนะนำ ให้เปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิก
133-8086
1
น้ำมันไฮดรอลิกชนิดอายุการใช้งานยาวนาน PX 19 ลิตร (5 แกลลอน)
133-8087
1
น้ำมันไฮดรอลิกชนิดอายุการใช้งานยาวนาน PX 19 ลิตร (55 แกลลอน)
ก่อนจัดเก็บ
-
-
-
ทุก 2 ปี
ล้างและเปลี่ยนน้ำยาในระบบหล่อเย็น (นำอุปกรณ์ไปให้ตัวแทนซ่อมบำรุงหรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตดูแล หรือดูคู่มือการซ่อมบำรุง)
-
-
-
เปลี่ยนท่ออ่อนไฮดรอลิก (นำอุปกรณ์ไปให้ตัวแทนซ่อมบำรุงหรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตดูแล หรือดูคู่มือการซ่อมบำรุง)
-
-
-
เปลี่ยนท่ออ่อนน้ำยาหล่อเย็น (นำอุปกรณ์ไปให้ตัวแทนซ่อมบำรุงหรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตดูแล หรือดูคู่มือการซ่อมบำรุง)
-
-
-
รายการตรวจสอบสำหรับการบำรุงรักษารายวัน
ถ่ายสำเนาหน้านี้ไว้เพื่อนำไปใช้งานเป็นประจำ
รายการตรวจสอบสำหรับการบำรุงรักษา
สำหรับสัปดาห์:
.
.
.
พฤ.
.
.
อา.
ตรวจสอบการทำงานของสวิตช์อินเทอร์ล็อก
ตรวจสอบการทำงานของเบรก
ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องและเชื้อเพลิง
ตรวจสอบระดับน้ำยาในระบบหล่อเย็น
ระบายเครื่องแยกน้ำ/น้ำมันเชื้อเพลิง
ตรวจสอบไฟสถานะซ่อมบำรุงของตัวกรองอากาศ
ตรวจสอบหม้อน้ำ หม้อพักน้ำมันเครื่อง และตะแกรงเพื่อดูสิ่งสกปรก
ตรวจสอบเสียงเครื่องยนต์ที่ผิดปกติ1
ตรวจสอบเสียงการทำงานที่ผิดปกติ
ตรวจสอบระดับน้ำมันของระบบไฮดรอลิก
ตรวจสอบท่ออ่อนไฮดรอลิกเพื่อดูความเสียหาย
ตรวจสอบของเหลวรั่วไหล
ตรวจสอบแรงดันลมยาง
ตรวจสอบการทำงานของแผงหน้าปัด
ตรวจสอบระยะห่างระหว่างพวงใบมีดกับใบมีดล่าง
ตรวจสอบความสูงในการตัด
หล่อลื่นจุดอัดจาระบีทั้งหมด2
ทำสีที่ชำรุด
  1. ตรวจสอบหัวเทียนและหัวฉีดหากสตาร์ทเครื่องยนต์ยาก มีควันออกมา หรือเดินสะดุด
  2. ทันทีหลังจากการล้างทุกครั้ง โดยไม่ต้องคำนึงถึงระยะการบำรุงรักษาที่กำหนดไว้
สำคัญ  
ดูขั้นตอนการบำรุงรักษาเพิ่มเติมได้จากคู่มือผู้ใช้เครื่องยนต์
 
บันทึกจุดที่ต้องระวัง
ตรวจสอบโดย:
รายการ
วันที่
ข้อมูล
1
   
2
   
3
   
4
   
5
   

ขั้นตอนก่อนบำรุงรักษา

การเตรียมพร้อมก่อนการบำรุงรักษา
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ ลดชุดตัดหญ้าลงมา และเข้าเบรกจอด
  2. ดับเครื่องยนต์ ดึงกุญแจออก และรอให้ชิ้นส่วนเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดนิ่ง
เปิดฝากระโปรง
    Graphic
    G424259
  1. ปลดสลักฝากระโปรง 2 อัน แล้วยกฝากระโปรงขึ้น
การปิดฝากระโปรง
    Graphic
    G424260
  1. ค่อยๆ ดันฝากระโปรงลงมา แล้วยึดด้วยสลักฝากระโปรง 2 ตัว
การเข้าถึงช่องแบตเตอรี่
    Graphic
    G424261
  1. ปลดสลักยาง ออกจากฝาครองช่องใส่แบตเตอรี่ จากนั้นเปิดฝาครอบ
การเอนเบาะ
    Graphic
    G424263
  1. ดันสลักเบาะที่นั่ง ออกด้านนอกและหมุนเบาะที่นั่งอย่างระมัดระวัง
  2. Graphic
    G424264
  3. ตรวจดูให้แน่ใจว่าก้านค้ำข้างหน้า อยู่ในร่องของแผ่นนำก้าน
การลดระดับเบาะที่นั่ง
    Graphic
    G424265
  1. หมุนเบาะที่นั่งเล็กน้อย และยกก้านค้ำ ออกจากร่องของช่องรองรับเบาะที่นั่ง
  2. ค่อยๆ ยกเบาะที่นั่งลงจนกว่าจะเกี่ยวล็อกแน่นหนา
ตำแหน่งจุดวางแม่แรง
หมายเหตุ: ใช้ขาตั้งแม่แรงรองรับน้ำหนักอุปกรณ์เมื่อต้องทำงานใต้ท้องอุปกรณ์
ใช้จุดยกอุปกรณ์ต่อไปนี้:
  • ด้านหน้าโครงอุปกรณ์ ด้านหน้าของมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อ
    สำคัญ  
    อย่าสอดเครื่องมือยกเข้าไปใต้มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อ เครื่องมือยกจะต้องอยู่ห่างจากท่อและท่ออ่อนไฮดรอลิก
     
    Graphic
    G424266
  • ด้านท้ายกลางเพลา
    หมายเหตุ: เลือกใช้ขาตั้งแม่แรงที่รองรับน้ำหนักได้ตามที่กำหนด จากนั้นวางขาตั้งแม่แรงที่ด้านข้างของกระปุกเกียร์ทั้งสองด้าน และใต้เพลา
    สำคัญ  
    อย่าสอดขาตั้งแม่แรงเข้าไปใต้คันส่ง
     
    Graphic
    G424267

การหล่อลื่น

การอัดจาระบีแบริ่งและบุชชิ่ง
บนอุปกรณ์มีจุดอัดจาระบีที่ต้องหยอดจาระบีเป็นประจำ การใช้งานอุปกรณ์ในสภาวะที่สกปรกหรือมีฝุ่นมากอาจทำให้สิ่งสกปรกเล็ดลอดเข้าไปในแบริ่งและบุชชิ่ง ทำให้เกิดการสึกหรอเร็วขึ้น หล่อลื่นจุดอัดจาระบีทันทีหลังจากการล้างทุกครั้ง โดยไม่ต้องคำนึงถึงระยะการบำรุงรักษาที่กำหนดไว้
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. อัดจาระบีข้อต่อทุกจุดด้วยจาระบีลิเธียม No.2
การอัดจาระบีข้อต่อ
ข้อมูลจำเพาะของจาระบี: จาระบีลิเธียมเบอร์ 2
แบริ่งหมุนเพลาเบรก (5)
Graphic
G452385
บูชชิ่งหมุนเพลาท้ายและกระบอกสูบบังคับเลี้ยว
Graphic
G452386
ข้อต่อกลมกระบอกสูบบังคับเลี้ยว (2)
ข้อต่อกลมคันส่ง (2)
บุชชิ่งสลักใหญ่ (2)
หมายเหตุ: ข้อต่อบนสลักใหญ่ควรอัดจาระบีทุกปี (2 ปั๊ม)
Graphic
G452387
  1. ข้อต่อบนสลักใหญ่
บุชชิ่งแขนยก (1 จุดต่อชุดตัดหญ้า)
บุชชิ่งกระบอกสูบยก (2 จุดต่อชุดตัดหญ้า)
Graphic
G452388
บุชชิ่งหมุนแขนยก (1 จุดต่อชุดตัดหญ้า)
โครงบรรทุกชุดตัดหญ้า (2 จุดต่อชุดตัดหญ้า)
ข้อหมุนแขนยกของชุดตัดหญ้า (1 จุดต่อชุดตัดหญ้า)
Graphic
G452389

การบำรุงรักษาเครื่องยนต์

ข้อมูลจำเพาะของน้ำมันเครื่อง
ประเภทน้ำมัน
ใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงชนิดเถ้าต่ำที่มีคุณสมบัติเท่ากับหรือเหนือกว่ามาตรฐาน API CH-4 ขึ้นไป
ใช้เกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องต่อไปนี้:
  • น้ำมันที่ควรใช้: SAE 15W-40 [-17°C (สูงกว่า 0°F)]
  • น้ำมันทางเลือก: SAE 10W-30 หรือ 5W-30 (ทุกอุณหภูมิ)
น้ำมันเครื่องพรีเมียมของ Toro หาซื้อได้จากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Toro ทั้งเกรดความหนืด 15W-40 หรือ 10W-30
ความจุห้องข้อเหวี่ยง
ประมาณ 9.5 ลิตร (10.0 ควอร์ต) พร้อมตัวกรอง
การตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง
หมายเหตุ: ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องตอนที่เครื่องยนต์เย็นเท่านั้น หากเครื่องยนต์ยังอุ่นอยู่ ควรรอประมาณ 10 นาที แล้วค่อยตรวจสอบ
เครื่องยนต์เติมน้ำมันในห้องข้อเหวี่ยงมาให้แล้วจากโรงงาน แต่ควรตรวจสอบระดับน้ำมันก่อนและหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งแรก
หากระดับน้ำมันต่ำกว่าขีดล่างบนก้านวัด ค่อยๆ เติมน้ำมันจนกระทั่งระดับน้ำมันขึ้นมาถึงขีดบนของก้านวัด
สำคัญ  
ระดับน้ำมันเครื่องต้องอยู่ระหว่างขีดบนกับขีดล่างบนเกจน้ำมัน การเติมน้ำมันเครื่องมากเกินไปหรือน้อยเกินไป อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายร้ายแรง
 
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. Graphic
    G453111
  3. ปลดสลักและเปิดฝากระโปรงของอุปกรณ์ขึ้น
  4. ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง
  5. ปิดและล็อกสลักฝากระโปรงอุปกรณ์
การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและตัวกรองน้ำมันเครื่อง
การระบายน้ำมันเครื่อง
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. เปิดฝาเติมน้ำมัน
  3. วางอ่างระบายไว้ใต้จุกระบาย
  4. Graphic
    G424298
  5. เปิดจุกระบายและปล่อยให้น้ำมันระบายลงในอ่าง
  6. เมื่อน้ำมันจากเครื่องยนต์หยุดไหล ปิดจุกระบายและขันจนได้แรงบิด 54 ถึง 63 นิวตัน (40 ถึง 47 ฟุตปอนด์)
การเปลี่ยนตัวกรองน้ำมัน
    Graphic
    G468270
  1. หมุนตัวกรองน้ำมัน ทวนเข็มนาฬิกาเพื่อถอดตัวกรอง
  2. เช็ดอะแดปเตอร์ตัวกรอง ให้สะอาด
  3. ทาน้ำมันสะอาดบางๆ ลงบนซีลตัวกรองชิ้นใหม่
  4. หมุนเกลียวตัวกรองเข้ากับอะแดปเตอร์ตัวกรอง จนกว่าตัวกรองจะแตะกับอะแดปเตอร์ จากนั้นขันตัวกรองเพิ่มอีกหนึ่งรอบ
    หมายเหตุ: อย่าขันตัวกรองแน่นเกินไป
  5. Graphic
    G453110
  6. เติมน้ำมันลงในห้องข้อเหวี่ยง แล้วปิดฝาเติม
การซ่อมบำรุงตัวกรองอากาศ
การถอดตัวกรอง
ซ่อมบำรุงตัวกรองของระบบกรองอากาศเฉพาะเมื่อไฟสถานะการซ่อมบำรุงขึ้นเป็นแถบสีแดงเท่านั้น การเปลี่ยนไส้กรองอากาศก่อนถึงเวลาจำเป็นจะเพิ่มโอกาสให้ฝุ่นเข้าสู่เครื่องยนต์มากขึ้นขณะที่ถอดไส้กรองออก
สำคัญ  
ตรวจสอบให้แนใจว่าฝาครอบผนึกเข้ากับตัวเรือนระบบกรองอากาศอย่างถูกต้อง
 
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. เปิดกระโปรงของอุปกรณ์
  3. ตรวจสอบตัวเรือนระบบกรองอากาศเพื่อหาการสึกหรอและความเสียหายที่อาจทำให้อากาศรั่วไหลได้ ตรวจสอบระบบอากาศเข้าทั้งหมดเพื่อตรวจสอบการรั่วไหล ความเสียหาย หรือข้อรัดท่ออ่อนที่หลวม
    หมายเหตุ: เปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหายของระบบกรองอากาศและระบบอากาศเข้า
  4. Graphic
    G424731
  5. ดึงสลัก ออก หมุนฝาครอบระบบกรองอากาศในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา แล้วถอดฝาครอบออกมา
  6. ก่อนถอดตัวกรอง ใช้ลมเป่าแรงดันต่ำ 275 กิโลปาสกาล (40 ปอนด์ต่อตร.นิ้ว ที่สะอาดและแห้ง) เพื่อช่วยกำจัดสิ่งสกปรกสะสมที่อัดอยู่ระหว่างด้านนอกของตัวกรองขั้นต้นกับตัวเรือนระบบกรองอากาศ
    สำคัญ  
    หลีกเลี่ยงการใช้ลมแรงดันสูง เพราะอาจดันฝุ่นผ่านไส้กรองเข้าในช่องอากาศเข้าได้
     
  7. Graphic
    G424732
  8. ถอดตัวกรองขั้นต้น ออกจากตัวเรือนระบบกรองอากาศ
    หมายเหตุ: ห้ามทำความสะอาดตัวกรองขั้นต้น
การติดตั้งตัวกรอง
    Graphic
    G424757
  1. ตรวจสอบตัวกรองนิรภัย หากสกปรก ให้เปลี่ยนใหม่
    สำคัญ  
    ห้ามทำความสะอาดตัวกรองนิรภัย เปลี่ยนตัวกรองนิรภัยอันใหม่หลังจากการซ่อมบำรุงตัวกรองขั้นต้นทุกๆ 3 ครั้ง
     
  2. ตรวจดูความเสียหายจากการขนส่งบนตัวกรองชิ้นใหม่ ตรวจสอบปลายผนึกของตัวกรองและตัวเรือนของตัวกรองอากาศ
    สำคัญ  
    อย่าใช้ตัวกรองที่ชำรุด
     
  3. ประกอบตัวกรองขั้นต้น ดันขอบด้านนอกของไส้กรองจนเข้าที่ในตัวเรือนของตัวกรองอากาส
    สำคัญ  
    ห้ามกดบริเวณที่ยืดหยุ่นตรงกลางของตัวกรอง
     
  4. ถอดฝาดักฝุ่นออกจากฝาครอบตัวกรองอากาศ ทำความสะอาดโพรงดักฝุ่น จากนั้นปิดฝาดักฝุ่นบนฝาครอบ
  5. ประกอบฝาครอบเข้ากับตัวเรือนตัวกรองอากาศ โดยให้ฝาดักฝุ่นหันลงด้านล่าง โดยวางไว้ประมาณ 5 นาฬิกาถึง 7 นาฬิกาเมื่อมองจากส่วนปลาย
  6. Graphic
    G424758
  7. หากแถบสีแดงแสดงในแถบสถานะการซ่อมบำรุง กดปุ่มรีเซ็ตที่ปลายแถบสถานะ
  8. ปิดและล็อกสลักฝากระโปรงอุปกรณ์

การบำรุงรักษาระบบเชื้อเพลิง

การตรวจสอบท่อน้ำมันและข้อต่อต่อ
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. เปิดกระโปรงของอุปกรณ์
  3. ตรวจสอบท่อน้ำมันเพื่อเช็คการสึกหรอ การเสื่อมสภาพ ความเสียหาย หรือข้อต่อหลวม
    หมายเหตุ: ซ่อมหรือเปลี่ยนท่อเชื้อเพลิงที่สึกหรือหรือชำรุด ขันข้อต่อให้แน่น
  4. ปิดและล็อกสลักฝากระโปรงอุปกรณ์
การระบายเครื่องแยกน้ำ/เชื้อเพลิง
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. ระบายเครื่องแยกน้ำตามขั้นตอนในภาพด้านล่าง
    Graphic
    G452998
  3. สตาร์ทเครื่องยนต์ ตรวจสอบการรั่วไหล แล้วดับเครื่องยนต์
    หมายเหตุ: ซ่อมแซมจุดรั่วไหลในระบบเชื้อเพลิงทั้งหมด
การเปลี่ยนตัวกรองเครื่องแยกเชื้อเพลิง-น้ำ
  1. ระบายของเหลวออกจากเครื่องแยกน้ำ-เชื้อเพลิงออกให้หมด
  2. Graphic
    G425089
  3. ทำความสะอาดหัวกรอง และกล่องตัวกรอง
  4. ถอดกล่องตัวกรอง และทำความสะอาดพื้นผิวยึดของหัวกรอง
  5. หล่อลื่นปะเก็นบนกล่องตัวกรองด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงสะอาด
  6. ติดตั้งกล่องตัวกรองด้วยมือจนกระทั่งปะเก็นแตะกับพื้นผิวที่ใช้ยึดกล่องตัวกรอง จากนั้นหมุนเพิ่มอีก 1/2 รอบ
  7. ขันวาล์วระบายที่ด้านล่างของกล่องตัวกรองให้แน่น
  8. สตาร์ทเครื่องยนต์และตรวจสอบการรั่วไหล
    หมายเหตุ: ซ่อมแซมจุดรั่วทั้งหมด
  9. ดับเครื่องยนต์และดึงกุญแจออก
  10. ปิดและล็อกสลักฝากระโปรงอุปกรณ์
การระบายและทำความสะอาดถังเชื้อเพลิง
ระบายและทำความสะอาดถังน้ำมัน หากระบบเชื้อเพลิงปนเปื้อน หรือถ้าหากต้องเก็บอุปกรณ์ไว้เป็นเวลานาน ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสะอาดในการล้างถัง
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. Graphic
    G425122
  3. วางอ่างระบายไว้ใต้วาล์วระบาย ด้านล่างของถังเชื้อเพลิง
  4. เปิดวาล์วระบายและปล่อยให้เชื้อเพลิงไหลออกมา
  5. หากจำเป็น สามารถเติมน้ำมันเชื้อเพลิงในถังเพื่อไล่น้ำมันเก่าออกมา
  6. ปิดวาล์วระบาย
    หมายเหตุ: ขณะเติมน้ำมันเชื้อเพลิงลงในถัง ควรตรวจสอบวาล์วระบายเพื่อเช็คว่าน้ำมันรั่วไหลหรือไม่
การทำความสะอาดตะแกรงน้ำมันเชื้อเพลิงดี
ท่อน้ำมันเชื้อเพลิงดีอยู่ที่ด้านในของถังเชื้อเพลิง มีตะแกรงติดตั้งไว้เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าสู่ระบบเชื้อเพลิง ถอดท่อน้ำมันเชื้อเพลิงดีออกและทำความสะอาดตะแกรงตามที่จำเป็น
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. เอียงเบาะที่นั่ง
  3. Graphic
    G425144
  4. ถอดข้อรัด ที่ยึดท่ออ่อน เข้ากับท่อจ่ายเชื้อเพลิงดี
  5. ถอดท่อจ่ายเชื้อเพลิงดีและบูชชิ่งยาง ออกจากถัง
  6. ทำความสะอาดตะแกรง ที่ปลายท่อจ่ายเชื้อเพลิงดี
  7. สอดท่อจ่ายเชื้อเพลิงดีและบูชชิ่งยางเข้าไปในถังจนกระทั่งบูชชิ่งล็อกเข้าที่ในถัง
  8. ประกอบท่ออ่อนเข้ากับท่อจ่ายเชื้อเพลิงดีและยึดด้วยข้อรัด
  9. ลดเบาะที่นั่งลงมาจนกระทั่งลงล็อก

การบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า

การถอดแบตเตอรี่
อันตราย
น้ำอิเล็กโทรไลต์ในแบตเตอรี่ประกอบด้วยกรดซัลฟูริก ซึ่งเป็นอันตรายหากรับประทานหรือทำให้เป็นแผลไหม้รุนแรง
  • ห้ามดื่มน้ำอิเล็กโตรไลต์และหลีกเลี่ยงไม่ให้สัมผัสกับผิวหนัง ดวงตา หรือเสื้อผ้า
  • ควรสวมแว่นตานิรภัยและถุงมือยางเสมอ
  • เติมน้ำแบตเตอรี่ในสถานที่ที่มีน้ำสะอาดเตรียมไว้เสมอเพื่อใช้ล้างผิวหนัง
 
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. เปิดฝาครอบช่องใส่แบตเตอรี่
  3. Graphic
    G425155
  4. ถอดสายไฟแบตเตอรี่ขั้วลบ
  5. เลื่อนบูทยางออกจากข้อรัดสายไฟแบตเตอรี่ขั้วบวก และถอดสายไฟแบตเตอรี่ขั้วบวกออก
การเชื่อมต่อแบตเตอรี่
    Graphic
    G425155
  1. ต่อสายไฟแบตเตอรี่ขั้วบวก (สีแดง) เข้ากับเสาแบตเตอรี่ขั้วบวก (+)
  2. ต่อสายไฟแบตเตอรี่ขั้วลบ (สีดำ) เข้ากับเสาแบตเตอรี่ขั้วลบ (-)
  3. ทาจาระบี Grafo 112X (แบบสกินโอเวอร์ ) หมายเลขอะไหล่ Toro 505-47 ที่เสาแบตเตอรี่และข้อรัดสายไฟแบตเตอรี่
  4. เลื่อนบูทยางครอบข้อรัดสายไฟแบตเตอรี่ขั้วบวก
  5. ปิดฝาครอบช่องใส่แบตเตอรี่แล้วใส่สลัก
การชาร์จแบตเตอรี่
  1. ตัดการเชื่อมต่อแบตเตอรี่
  2. ต่อเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ 3-4 แอมป์เข้ากับเสาแบตเตอรี่
  3. ชาร์จแบตเตอรี่ด้วยกำลัง 3-4 แอมป์เป็นเวลา 4-8 ชั่วโมง
  4. เมื่อชาร์จแบตเตอรี่แล้ว ถอดเครื่องชาร์จออกจากเต้ารับไฟฟ้าและเสาแบตเตอรี่
  5. เชื่อมต่อแบตเตอรี่
การซ่อมบำรุงแบตเตอรี่
หมายเหตุ: คอยรักษาความสะอาดขั้วและกล่องแบตเตอรี่เนื่องจากแบตเตอรี่ที่สกปรกจะคายประจุช้า
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. เปิดฝาครอบช่องใส่แบตเตอรี่
  3. ตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่
    หมายเหตุ: เปลี่ยนแบตเตอรี่ที่สึกหรอหรือชำรุด
  4. ถอดสายไฟแบตเตอรี่ และถอดแบตเตอรี่ออกจากอุปกรณ์
  5. ล้างทั้งกล่องแบตเตอรี่ด้วยน้ำผสมโซเดียมไบคาบอเนต (เบกกิ้งโซดา)
  6. ล้างกล่องด้วยน้ำสะอาด
  7. ประกอบแบตเตอรี่เข้ากับอุปกรณ์และต่อสายแบตเตอรี่
  8. ปิดฝาครอบช่องใส่แบตเตอรี่แล้วใส่สลัก
การเปลี่ยนฟิวส์
กล่องฟิวส์อยู่ในช่องใส่แบตเตอรี่
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. เปิดฝาครอบช่องใส่แบตเตอรี่
  3. เปลี่ยนฟิวส์ที่ขาดด้วยฟิวส์ประเภทเดียวกันที่มีแอมแปร์เท่ากัน
    Graphic
    G425167
    1.  กล่องฟิวส์
    2.  กระบอกฟิวส์แม็กซี
    Graphic
    G425168
  4. ปิดฝาครอบช่องใส่แบตเตอรี่แล้วใส่สลัก

การบำรุงรักษาระบบขับเคลื่อน

การตรวจสอบแรงดันลมยาง
คำเตือน
หากแรงดันลมยางต่ำ ความเสถียรของอุปกรณ์จะลดลงเมื่อทำงานบนเนิน อุปกรณ์อาจพลิกคว่ำ ซึ่งอาจส่งผลให้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บร้ายแรง
อย่าเติมลมยางน้อยเกินไป
 
หมายเหตุ: คอยตรวจสอบแรงดันลมยางทุกล้อเพื่อให้อุปกรณ์ตัดหญ้าได้ดีและเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเหมาะสม
  1. วัดแรงดันลมของแต่ละล้อ แรงดันลมยางที่ถูกต้องคือ 83 ถึง 103 กิโลปาสกาล (12 หรือ 15 ปอนด์ต่อตร.นิ้ว)
  2. ถ้าจำเป็น ให้เติมลมหรือไล่ลมออกจากล้อยาง จนกว่าจะวัดแรงดันลมยางได้ 83 ถึง 103 กิโลปาสกาล (12 หรือ 15 ปอนด์ต่อตร.นิ้ว)
การขันน็อตล้อ
คำเตือน
หากน็อตล้อมีแรงบิดไม่เหมาะสม อาจทำให้ล้อหลวม และส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บร้ายแรงได้
ขันน็อตล้อหน้าและล้อหลังจนได้แรงบิด 115 ถึง 136 นิวตันเมตร (85 ถึง 100 ฟุตปอนด์) หลังจากใช้งานไป 1 ถึง 4 ชั่วโมง และขันอีกครั้งหลังจากใช้งานครบ 8 ชั่วโมง ขันน็อตล้อทุกๆ 200 ชั่วโมงหลังจากนั้น
 
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. ขันน็อตล้อจนได้แรงบิด 115 ถึง 136 นิวตันเมตร (85 ถึง100 ฟุตปอนด์)
    หมายเหตุ: น็อตล้อหน้าเป็นแบบ 1/220 UNF ส่วนน็อตล้อหลัง M12 x 1.6-6H (เมตริก)
การตรวจสอบระยะรุนของชุดขับเฟืองแพลเนต
อันตราย
อุปกรณ์ที่หนุนด้วยแม่แรงอาจไม่มั่นคงและไถลลงมาจากแม่แรงได้ ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บร้ายแรง
  • ห้ามสตาร์ทอุปกรณ์ขณะที่อุปกรณ์อยู่บนแม่แรง
  • ดึงกุญแจออกจากสวิตช์ก่อนลุกออกจากรถ
  • บล็อกล้อขณะที่คุณยกอุปกรณ์ขึ้นด้วยแม่แรง
  • หนุนอุปกรณ์ด้วยขาตั้งแม่แรง
 
ในชุดขับเฟืองแพลเนต/ล้อขับไม่ควรมีระยะรุน (กล่าวคือ ล้อไม่ควรขยับเมื่อคุณดึงหรือดันล้อในทิศทางขนานกับเพลา)
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. ขัดล้อหลังและยกด้านหน้าของอุปกรณ์ขึ้นจากพื้น
  3. หนุนโครงด้านหน้าของอุปกรณ์ด้วยขาตั้งแม่แรง
  4. Graphic
    G425181
  5. จับล้อขับด้านหน้าล้อใดล้อหนึ่ง จากนั้นดัน/ดึงเข้าและออกจากอุปกรณ์ จดบันทึกการเคลื่อนที่ทั้งหมด
  6. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 4 สำหรับล้อขับที่เหลือ
  7. หากพบว่าล้อไหนเคลื่อนที่ ให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Toro มาซ่อมบำรุงชุดขับเฟืองแพลเนต
การตรวจสอบการหล่อลื่นชุดขับเฟืองแพลเนต
ข้อมูลจำเพาะน้ำมันหล่อลื่น: น้ำมันเกียร์ SAE 85W-140 คุณภาพสูง
    Graphic
    G425183
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ หันล้อให้จุกเติม อยู่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา จุกตรวจเช็ค อยู่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และจุกระบาย อยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
  2. Graphic
    G425185
  3. เปิดจุกตรวจเช็ค ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
    หมายเหตุ: ระดับน้ำมันควรอยู่ที่ด้านล่างสุดของรูจุกตรวจเช็ค
  4. หากน้ำมันเหลือน้อย ให้เปิดจุกเติมที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา แล้วเติมน้ำมันจนเริ่มไหลออกมาจากรูที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
  5. ตรวจสอบโอริงของจุกเพื่อตรวจหาการสึกหรอหรือความเสียหาย
    หมายเหตุ: เปลี่ยนโอริงถ้าจำเป็น
  6. ปิดจุกต่างๆ เข้าที่
  7. ทำซ้ำขั้นตอนนี้กับชุดเฟืองแพลเนตที่อีกฝั่งของอุปกรณ์
การเปลี่ยนน้ำมันขับเฟืองแพลเนต
ข้อมูลจำเพาะน้ำมันหล่อลื่น: น้ำมันเกียร์ SAE 85W-140 คุณภาพสูง
ความจุน้ำมันหล่อลื่นห้องเฟืองแพลเนตและเสื้อเบรก: 0.65 ลิตร (22 ออนซ์)
การระบายน้ำมันชุดขับเฟืองแพลเนต
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ หันล้อให้จุกเติมอยู่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา จุกตรวจเช็คอยู่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และจุกระบายอยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
  2. เปิดจุกเติมที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาและจุดตรวจเช็คที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
    Graphic
    G425192
    1. รูจุกระบาย
    2. จุกเติม
    3. จุกตรวจเช็ค
    4. จุกระบาย
  3. วางถาดระบายใต้ดุมเฟืองแพลเนต เปิดจุกระบายที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และปล่อยให้น้ำมันระบายออกจนหมด
  4. ตรวจสอบโอริงของจุกเติม จุกตรวจเช็ค และจุกระบายเพื่อเช็คการสึกหรอหรือความเสียหาย
    หมายเหตุ: เปลี่ยนโอริงถ้าจำเป็น
  5. ปิดจุกระบายเข้ากับรูระบายของห้องเฟืองแพลเนต
  6. วางถาดระบายใต้เสื้อเบรก เปิดจุกระบายและปล่อยให้น้ำมันระบายออกจนหมด
    Graphic
    G425193
    1. รูระบาย (เสื้อเบรก)
    2. จุกระบาย
  7. ตรวจสอบโอริงของจุกเพื่อเช็คการสึกหรอหรือความเสียหาย และปิดจุกระบายเข้ากับเสื้อเบรก
    หมายเหตุ: เปลี่ยนโอริงถ้าจำเป็น
การเติมน้ำมันหล่อลื่นในชุดขับเฟืองแพลเนต
    Graphic
    G425214
  1. ค่อยๆ เติมน้ำมันเกียร์ SAE 85W-140 คุณภาพสูงปริมาณ 0.65 ลิตร (22 ออนซ์ของเพลว) ลงในชุดเฟืองแพลเนตช้าๆ ผ่านรูจุกเติม
    สำคัญ  
    หากชุดเฟืองแพลเนตเต็มก่อนที่คุณจะเติมน้ำมัน 0.65 ลิตร (22 ออนซ์ของเหลว) ให้รอ 1 ชั่วโมง หรือปิดจุก แล้วเข็นอุปกรณ์ประมาณ 3 . (10 ฟุต) เพื่อจายน้ำมันผ่านระบบเบรก จากนั้น เปิดจุกและเติมน้ำมันที่เหลือ
     
  2. ปิดจุกเติม และจุกตรวจเช็ค
  3. Graphic
    G425215
  4. เช็ดเสื้อเฟืองแพลเนตและเสื้อเบรกให้สะอาด
  5. ระบายน้ำมันและเติมน้ำมันในระบบขับเคลื่อนชุดเฟืองแพลเนตอีกด้านหนึ่งของอุปกรณ์
การตรวจสอบเพลาท้าย
  1. ตรวจสอบเพลาท้ายด้วยสายตาเพื่อหาการรั่วไหล ซ่อมแซมความเสียหายทั้งหมดก่อนกลับไปใช้งานต่อ
การตรวจสอบระดับน้ำมันของเพลาท้าย
ข้อมูลจำเพาะของน้ำมันเพลา: น้ำมันเกียร์ SAE 85W-140
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. Graphic
    G425336
  3. ถอดจุกตรวจเช็ค ออกจากปลายตัวเรือนเพลา
  4. ตรวจดูระดับน้ำมันเกียร์ภายในเพลาผ่านรูจุกตรวจเช็ค
    หมายเหตุ: ระดับน้ำมันเกียร์ที่เหมาะสมควรอยู่ที่ด้านล่างของรูจุกตรวจเช็ค
  5. หากน้ำมันเกียร์เหลือน้อย ให้เปิดจุกเติม และเติมน้ำมันเกียร์ที่กำหนดจนระดับน้ำมันขึ้นมาถึงส่วนล่างของรูจุกตรวจเช็ค
  6. ปิดจุกตรวจเช็ค
  7. หากถอดจุกเติมออกก่อนหน้านี้ ให้ปิดจุกเติม
การเปลี่ยนน้ำมันในเพลาท้าย
ความจุน้ำมันของเพลาท้าย: 2.4 ลิตร (80 ออนซ์ของเหลว)
    Graphic
    G425369
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. ทำความสะอาดบริเวณรอบๆ จุกระบาย 3 อัน ซึ่งอยู่บนกระปุกเกียร์ดอกจอกแต่ละด้าน ด้านละหนึ่งอัน (ด้านนอกเรือนเพลา ) และด้านในตัวเรือนเกียร์กลางอีกหนึ่งอัน
  3. ถอดจุกระบายทุกอัน และปล่อยให้น้ำมันระบายลงในถาด
  4. Graphic
    G425336
  5. ถอดจุดตรวจเช็คของเรือนเพลา 2 อัน และจุกเติม เพื่อน้ำมันระบายออกมาได้ง่าย
  6. ปิดจุกระบายทั้ง 3 อันและจุกตรวจเช็คบนตัวเรือนเพลาที่มีช่องระบาย
  7. ใช้ช่องเติมน้ำมันเพลา เติมน้ำมันเกียร์ 85W-140 ประมาณ 2.37 ลิตร (80 ออนซ์ของเหลว) หรือจนกระทั่งระดับน้ำมันขึ้นมาถึงส่วนล่างของรู
  8. ปิดจุกเติมและจุกตรวจเช็ค
การตรวจสอบตัวเรือนของเกียร์ทดรอบ
  1. ตรวจสอบตัวเรือนเกียร์ทดรอบด้วยสายตาเพื่อหาการรั่วไหล ซ่อมแซมความเสียหายทั้งหมดก่อนกลับไปใช้งานต่อ
การตรวจสอบน้ำมันหล่อลื่นในตัวเรือนของเกียร์ทดรอบ
ข้อมูลจำเพาะของน้ำมันหล่อลื่นตัวเรือนของเกียร์ทดรอบ: น้ำมันเกียร์ SAE 85W-140
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. Graphic
    G425370
  3. ถอดจุกตรวจเช็ค/จุกเติม ออกจากด้านซ้ายของตัวเรือนเกียร์ทดรอบ
  4. ตรวจสอบว่าโอริง ของจุกไม่สึกหรอหรือชำรุด
  5. ตรวจสอบระดับน้ำมันของตัวเรือนเกียร์
    หมายเหตุ: ระดับน้ำมันที่เหมาะสมควรอยู่ด้านล่างของรูจุกตรวจเช็ค/จุกเติม
  6. หากระดับน้ำมันเกียร์อยู่ต่ำกว่าที่ระบุไว้ ให้เติมน้ำมันที่กำหนดจนกระทั่งระดับน้ำมันขึ้นมาถึงด้านล่างของรูจุกตรวจเช็ค/จุกเติม
  7. ปิดจุกตรวจเช็ค/จุกเติม
ตารางความเร็วการตัดหญ้า-ตัวคั่น
Graphic
G425371
การปรับความเร็วสูงสุดในการตัดหญ้า-ขับเคลื่อนบนพื้น
การปรับความเร็วการตัดหญ้าด้วยตัวคั่น
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. ใช้ตารางความเร็วการตัดหญ้า-ตัวคั่นเลือกความเร็วสูงสุดในการขับเคลื่อนบนพื้นขณะตัดหญ้า และตำแหน่งของตัวคั่นแบบสั้นสำหรับใช้จำกัดความเร็วการตัดหญ้า-ขับเคลื่อนบนพื้น
    หมายเหตุ: ตัวคั่นแบบสั้นแต่ละตัวจะปรับความเร็วการตัดหญ้าทีละ 0.8 กม./ชม. (0.5 ไมล์ต่อชั่วโมง)
  3. เข้าไปใต้แป้นขับเคลื่อน จากนั้นถอดสลักเกลียวหยุดและน็อตล็อกมีบ่าที่ยึดตัวคั่นเข้ากับบล็อกหยุดการตัดหญ้า
    Graphic
    G425372
    1. แป้นขับเคลื่อน
    2. สวิตช์จำกัดความเร็วการตัดหญ้า
    3. สลักเกลียวหยุด
    4. ตัวคั่นแบบสั้น
    5. บล็อกหยุดการตัดหญ้า
    6. น็อตล็อกมีบ่า
  4. วางตัวคั่นแบบยาวเหนือบล็อกหยุดการตัดหญ้า
  5. วางตัวคั่นแบบสั้นในตำแหน่งที่กำหนดไว้ในขั้นตอนที่ 2
  6. ยึดตัวคั่นเข้ากับบล็อกหยุดการตัดหญ้าด้วยสลักเกลียวหยุดและน็อตล็อกมีบ่าที่ถอดออกมาในขั้นตอนที่ 3
    หมายเหตุ: คุณต้องติดตั้งตัวคั่นแบบสั้นให้ครบ 6 ตัวและตัวคั่นแบบยาวหนึ่งตัว
  7. ตั้งค่าความเร็วการตัดหญ้าใน InfoCenter
การตั้งค่าความเร็วการตัดหญ้าใน InfoCenter
TEC จะใช้ InfoCenter ตั้งค่าความเร็วการตัดหญ้าเพื่อปรับความเร็วใบมีดพวงของชุดตัดหญ้าให้ได้ความเร็วสูงสุดในการตัดหญ้า-ขับเคลื่อนบนพื้น
  1. ใน InfoCenter เข้าไปที่ เมนูหลัก 
  2. ใน เมนูหลักกดปุ่มกลางจนกระทั่งแถบไฮไลท์อยู่บนตัวเลือก Settings (การตั้งค่า) จากนั้นกดปุ่มขวา
  3. ใน เมนูการตั้งค่ากดปุ่มกลางจนกระทั่งแถบไฮไลท์อยู่บนตัวเลือก Protected Menus (เมนูที่ได้รับการป้องกัน) จากนั้นกดปุ่มขวา
  4. ในหน้าจอ Protected Menus (เมนูที่ได้รับการป้องกัน) ให้ป้อนรหัส PIN
  5. ในหน้าจอ เมนูการตั้งค่ากดปุ่มกลางจนกระทั่งแถบไฮไลท์อยู่บนตัวเลือก Mow Speed (ความเร็วการตัดหญ้า) จากนั้นกดปุ่มขวา
  6. ในหน้าจอ Mow Speed (ความเร็วการตัดหญ้า) กดปุ่มกลางหรือปุ่มขวาจนกระทั่งความเร็วการตัดหญ้าที่ปรากฏบนหน้าจอเท่ากับความเร็วสูงสุดในการตัดหญ้า-ขับเคลื่อนบนพื้นที่คุณกำหนดไว้ก่อนหน้า
    หมายเหตุ: การตั้งค่าความเร็วการตัดหญ้าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงครั้งละ 0.8 กม./ชม. (0.5 ไมล์ต่อชม.)
    Graphic
    G425373
    หมายเหตุ: ไฟสัญญาณจะสว่างขึ้นและ คำแนะนำ #176 (ความเร็วใบมีดพวงเปลี่ยนแปลง) จะปรากฏขึ้นมา
    Graphic
    G425374
  7. กดปุ่มซ้ายเพื่อออกจาก เมนูการตั้งค่า 
การปรับระบบขับเคลื่อนสำหรับเกียร์ว่าง
อุปกรณ์ต้องไม่ขยับไปด้านหน้าหรือด้านหลังเมื่อคุณปล่อยแป้นขับเคลื่อน หากอุปกรณ์ขยับ ให้ปรับระบบขับเคลื่อนสำหรับเกียร์ว่าง
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ ดับเครื่องยนต์ ปรับการควบคุมความเร็วไว้ในตำแหน่งต่ำ และลดชุดตัดลง
  2. เหยียบเฉพาะแป้นเบรกขวา และเข้าเบรกจอด
  3. ใช้แม่แรงยกด้านซ้ายของอุปกรณ์ขึ้นจนกระทั่งล้อซ้ายด้านหน้ายกขึ้นจากพื้น หนุนอุปกรณ์ด้วยขาตั้งแม่แรงเพื่อป้องกันไม่ให้ร่วงตกลงมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
  4. สตาร์ทเครื่องยนต์และปล่อยให้เดินรอบเบา
  5. ปรับน็อตสวมทับบนปลายก้านสูบเพื่อขยับก้านขับเคลื่อนไปข้างหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ขยับเดินหน้า หรือขยับถอยหลังเพื่อไม่ให้อุปกรณ์ขยับถอยหลัง
    Graphic
    G425376
    Graphic
    G425377
    1. น็อตสวมทับ
    2. แกนหมุนขับเคลื่อน
    3. ก้านขับเคลื่อน
    4. ปลายก้าน
  6. หลังจากล้อหยุดหมุนแล้ว ขันน็อตสวมทับให้แน่นเพื่อยึดการปรับไว้
  7. ดับเครื่องยนต์และดึงกุญแจออก
  8. นำขาตั้งแม่แรงออกและลดอุปกรณ์ลงมาที่พื้น
  9. ทดสอบการขับขี่อุปกรณ์เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการขยับ
การตรวจสอบการวางตำแหน่งล้อหลัง
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. วัดระยะห่างจากกลางล้อถึงกลางล้อ (ที่ความสูงเพลา) ตรงยางบังคับทิศทางด้านหน้าและด้านหลัง
    หมายเหตุ: ค่าที่วัดได้ด้านหน้าต้องน้อยกว่าค่าที่วัดได้ด้านหลัง มม. (1/8 นิ้ว)
    Graphic
    G416236
    1. ด้านหน้าของรถตัดหญ้า
    2. น้อยกว่าด้านหลังของล้อ มม. ( นิ้ว)
    3. ระยะจากศูนย์กลางถึงศูนย์กลาง
การปรับมุมโทอินล้อหลัง
  1. ที่เพลาหลัง ให้ถอดสลักปลายแยกและน็อตหัวผ่าออกจากปลายคันส่งด้านใดด้านหนึ่ง
    Graphic
    G425379
    1. น็อตหัวผ่า
    2. สลักปลายแยก
    3. กล่องเพลา-แขนบังคับเลี้ยว
    4. ปลายคันส่ง
    5. ข้อรัด
    6. น็อตและสลักเกลียว
  2. แยกปลายคันส่งออกจากกล่องเพลา-แขนบังคับเลี้ยว
  3. คลายข้อรัดที่ปลายทั้งสองด้านของคันส่ง
  4. หมุนข้อต่อกลมที่หลุดออกมา โดยหมุนเข้าหรือหมุนออกจนครบ 1 รอบ
  5. ขันข้อรัดตรงปลายของคันส่งที่หลวมออกมา
  6. หมุนชุดคันส่งทั้งหมดไปในทิศทางเดียวกัน (เข้าหรือออก) จนครบ 1 รอบ
  7. ขันข้อรัดตรงปลายของคันส่งที่ต่อกันแล้ว
  8. ประกอบปลายคันส่งเข้ากับกล่องเพลา-แขนบังคับเลี้ยวโดยใช้น็อตหัวผ่า
  9. วัดมุมโทอิน
  10. หากจำเป็น ถอดน็อตหัวผ่าออกมาและทำซ้ำขั้นตอนที่ 2 ถึง 9
  11. หากวัดแล้วค่าด้านหน้าและด้านท้ายต่างกันไม่ถึง 3 มม. (1/8 นิ้ว) ขันน็อตหัวผ่าและใส่สลักปลายแยก

การบำรุงรักษาระบบหล่อเย็น

ข้อมูลจำเพาะของน้ำยาหล่อเย็น
ถังหล่อเย็นมีการเติมน้ำผสมน้ำยาหล่อเย็นแบบยืดอายุการใช้งานชนิดเอทิลีนไกลคอลในสัดส่วน 50/50 มาจากโรงงาน
สำคัญ  
ใช้เฉพาะน้ำยาหล่อเย็นที่มีจำหน่ายในท้องตลาดและมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดในตารางมาตรฐานน้ำยาหล่อเย็นแบบยืดอายุการใช้งานเท่านั้น
ห้ามใช้น้ำยาหล่อเย็นชนิดเทคโนโลยีกรดอนินทรีย์ (สีเขียว) (IAT) แบบทั่วไปในอุปกรณ์ อย่าผสมน้ำยาหล่อเย็นแบบทั่วไปกับน้ำยาหล่อเย็นแบบยืดอายุการใช้งาน
 
ตารางชนิดน้ำยาหล่อเย็น
ชนิดน้ำยาหล่อเย็นเอทิลีนไกลคอล
ชนิดสารยับยั้งการสึกกร่อน
สารป้องกันการแข็งตัวแบบยืดอายุการใช้งาน
เทคโนโลยีกรดอินทรีย์ (OAT)
สำคัญ  
อย่าแยกแยะความแตกต่างระหว่างน้ำยาหล่อเย็นชนิดกรดอนินทรีย์ (สีเขียว) แบบทั่วไปกับน้ำยาหล่อเย็นแบบยืดอายุการใช้งานโดยการดูจากสีของน้ำยาหล่อเย็น
ผู้ผลิตน้ำยาหล่อเย็นอาจย้อมสีน้ำยาหล่อเย็นแบบยืดอายุการใช้งานด้วยสีใดสีหนึ่งต่อไปนี้: สีแดง, สีชมพู, สีส้ม, สีเหลือง, สีน้ำเงิน, สีเขียวอมฟ้า, สีม่วง และสีเขียว ใช้น้ำยาหล่อเย็นที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดในตารางมาตรฐานน้ำยาหล่อเย็นแบบยืดอายุการใช้งาน
 
ตารางมาตรฐานน้ำยาหล่อเย็นแบบยืดอายุการใช้งาน
ATSM International
SAE International
D3306 และ D4985
J1034, J814 และ 1941
สำคัญ  
สำหรับความเข้มข้นของน้ำยาหล่อเย็น ควรผสมน้ำต่อน้ำยาหล่อเย็นในสัดส่วน 50/50
 
  • แนะนำ: เมื่อผสมน้ำยาหล่อเย็นจากน้ำยาเข้มข้น ให้ผสมกับน้ำกลั่น
  • ทางเลือก: หากไม่มีน้ำกลั่น ใช้น้ำยาหล่อเย็นผสมสำเร็จแทนน้ำยาแบบเข้มข้น
  • ข้อกำหนดขั้นต่ำ: หากไม่มีทั้งน้ำกลั่นและน้ำยาหล่อเย็นผสมสำเร็จ ให้ผสมน้ำยาหล่อเย็นเข้มข้นกับน้ำสะอาดที่ดื่มได้
ความจุของระบบหล่อเย็น
ประมาณ 12.3 ลิตร (13 แกลลอนสหรัฐ)
การตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น
ข้อควรระวัง
หากเครื่องยนต์เดินอยู่ น้ำยาหล่อเย็นจะร้อนและมีแรงดันสูง และอาจพุ่งออกมาจนทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยหรือปานกลาง
  • อย่าเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน
  • ใช้ผ้าขี้ริ้วเมื่อเปิดฝาหม้อน้ำ และเปิดฝาช้าๆ เพื่อปล่อยไอน้ำออก
 
    Graphic
    G425390
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. เปิดฝากระโปรงขึ้น จากนั้นรอให้เครื่องยนต์เย็น
  3. ค่อยๆ ถอดฝาหม้อน้ำอย่างระมัดระวัง
  4. ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำ
    หมายเหตุ: ระดับน้ำยาหล่อเย็นที่เหมาะสมควรอยู่บริเวณคอช่องเติม ของหม้อน้ำ
  5. ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นในถังขยาย
    หมายเหตุ: ระดับน้ำยาหล่อเย็นที่เหมาะสมควรเท่ากับขีดเต็ม ของถังขยาย
  6. หากน้ำยาหล่อเย็นเหลือน้อย เติมน้ำยาหล่อเย็นที่กำหนดในหม้อน้ำ ถังขยาย หรือทั้งคู่
  7. ปิดฝาหม้อน้ำและฝาถังขยาย
  8. ปิดและล็อกสลักฝากระโปรงอุปกรณ์
การซ่อมบำรุงระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. ปลดสลักและเปิดตะแกรงท้าย
    Graphic
    G425401
    1. ตัวยึดสลัก
    2. สลักตะแกรงท้าย
  3. ทำความสะอาดตะแกรงทั้งสองด้าน
  4. ยกตะแกรงออกจากสลักแบบบานพับ จากนั้นถอดตะแกรงออกมา
  5. เปิดกระโปรงของอุปกรณ์
  6. ทำความสะอาดบริเวณหม้อพักน้ำมันเครื่อง/หม้อน้ำทั้งสองด้านให้สะอาดด้วยการเป่าลม โดยเริ่มต้นจากด้านหน้า แล้วเป่าสิ่งสกปรกออกไปด้านหลัง จากนั้นทำความสะอาดจากด้านหลัง แล้วเป่าไปด้านหน้า ทำตามขั้นตอนนี้หลายๆ ครั้งจนกว่าเศษวัสดุและสิ่งสกปรกหลุดออกจนหมด
    สำคัญ  
    การทำความสะอาดหม้อพักน้ำมันเครื่อง/หม้อน้ำด้วยน้ำอาจทำให้ส่วนประกอบสึกกร่อนเร็วกว่ากำหนดและทำให้สิ่งสกปรกเข้าไปสะสมได้
     
    Graphic
    G425402
    1. หม้อพักน้ำมันเครื่อง/หม้อน้ำ
  7. ปิดและล็อกสลักฝากระโปรงอุปกรณ์
  8. ประกอบตะแกรงเข้ากับหมุดบานพับ
    Graphic
    G425403
    1. ตัวยึดสลัก
    2. สลักตะแกรงท้าย
  9. ปลดและล็อกสลักตะแกรง

การบำรุงรักษาเบรก

การปรับเบรก
ปรับเบรกซ่อมบำรุงเมื่อแป้นเบรกมีระยะฟรีมากกว่า 13 มม. (1/2 นิ้ว) หรือเมื่อเบรกลื่น ระยะฟรีคือระยะที่แป้นเบรกขยับก่อนที่จะรู้สึกถึงแรงต้านเบรก
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. ปลดสลักล็อกแป้นเบรกที่อยู่ระหว่างแป้นเบรก เพื่อให้แป้นทั้งสองทำงานเป็นอิสระจากกัน
    Graphic
    G425404
    1. แป้นเบรกถูกล็อกเข้าด้วยกัน
    2. แป้นเบรกเป็นอิสระจากกัน
  3. คลายน็อตสวมทับด้านหน้าบนปลายที่เป็นเกลียวของสายเบรก
    Graphic
    G425405
    Graphic
    G425406
    1. สายเบรกด้านซ้าย
    2. สายเบรกด้านขวา
    3. น็อตสวมทับ
    4. ด้านหน้าอุปกรณ์
  4. ขันน็อตสวมทับด้านหลังเพื่อขยับสายเบรกไปข้างหลังจนกว่าแป้นเบรกมีระยะฟรี 0 ถึง 13 มม. (0 ถึง 1/2 นิ้ว) เพื่อลดระยะฟรีของแป้นเบรก
    หมายเหตุ: สายเบรกต้องไม่ตึงเมื่อปล่อยแป้นเบรก
  5. ขันน็อตสวมทับด้านหน้าหลังจากปรับเบรกถูกต้องแล้ว
  6. ถ้าจำเป็น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 3 ถึง 5 ที่สายเบรกอีกเส้นหนึ่ง

การบำรุงรักษาสายพาน

การปรับความตึงสายพานอัลเทอร์เนเตอร์
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. เปิดกระโปรงของอุปกรณ์
  3. ตรวจสอบสภาพของสายพานอัลเทอร์เนเตอร์
    หมายเหตุ: เปลี่ยนสายพานที่สึกหรอหรือชำรุด
  4. ตรวจสอบความตึงของสายพานอัลเทอร์เนเตอร์โดยการใช้มือกดตรงกลางของสายพาน
    หมายเหตุ: เมื่อใช้แรง 45 นิวตัน (10 ปอนด์) สายพานควรจะเบนลง 10 มม. (3/8 นิ้ว)
  5. Graphic
    G425418
  6. หากการเบนของสายพานไม่ถูกต้อง ให้ปรับความตึงของสายพานตามขั้นตอนต่อไปนี้
    1. คลายสลักเกลียว ยึดอัลเทอร์เนเตอร์
    2. เพิ่มหรือลดความตึงของสายพานอัลเทอร์เนเตอร์ จากนั้นขันสลักเกลียวยึด
    3. ตรวจสอบการเบนของสายพานอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าความตึงถูกต้อง
  7. ปิดและล็อกสลักฝากระโปรงอุปกรณ์

การบำรุงรักษาระบบไฮดรอลิก

การตรวจสอบระบบท่อและท่ออ่อนไฮดรอลิก
  1. ตรวจสอบระบบท่อและท่ออ่อนไฮดรอลิกเพื่อเช็คการรั่วไหล ท่อหักงอ ส่วนรองรับการยึดที่หลวม การสึกหรอ ข้อต่อหลวม การเสื่อมสภาพจากสภาพอากาศ และการเสื่อมสภาพจากสารเคมี
    หมายเหตุ: ซ่อมแซมความเสียหายทั้งหมดก่อนกลับไปใช้งานต่อ
ข้อมูลจำเพาะน้ำมันไฮดรอลิก
ถังน้ำมันเติมน้ำมันไฮดรอลิกคุณภาพสูงมาแล้วจากโรงงาน ตรวจสอบระดับน้ำมันไฮดรอลิกก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งแรก และทุกวันหลังจากนั้น
น้ำมันไฮดรอลิกที่แนะนำ: น้ำมันไฮดรอลิกชนิดยืดอายุการใช้งาน Toro PX มีจัดจำหน่ายแบบถัง 19 ลิตร (5 แกลลอนสหรัฐ) หรือถัง 208 ลิตร (55 แกลลอนสหรัฐ)
หมายเหตุ: อุปกรณ์ที่ใช้น้ำมันเปลี่ยนทดแทนที่แนะนำไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันและตัวกรองบ่อยๆ เหมือนกับการใช้น้ำมันเปลี่ยนทดแทนแบบอื่น
น้ำมันไฮดรอลิกทางเลือก: หากไม่มีน้ำมันไฮดรอลิกชนิดยืดอายุการใช้งาน Toro PX จัดจำหน่าย คุณสามารถใช้น้ำมันไฮดรอลิกชนิดปิโตรเลียมทั่วไปที่มีข้อมูลจำเพาะตรงกับช่วงที่ระบุไว้สำหรับคุณสมบัติวัสดุต่อไปนี้ทั้งหมดและได้ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม อย่าใช้น้ำมันสังเคราะห์ ปรึกษาตัวแทนจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
หมายเหตุ: Toro ไม่รับผิดชอบความเสียหายจากการใช้น้ำมันเปลี่ยนทดแทนที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงน่าเชื่อถือเท่านั้น
น้ำมันไฮดรอลิกป้องกันการสึกหรอชนิดดัชนีความหนืดสูง/จุดไหลเทต่ำ ISO VG 46
คุณสมบัติวัสดุ:  
  ความหนืด, ASTM D445 cSt ที่ 40 °C (104°F) 44 ถึง 48
  ดัชนีความหนืด ASTM D2270 140 ขึ้นไป
  จุดไหลเท, ASTM D97 -37 °C ถึง -45 °C (-34°F ถึง -49°F)
  ข้อมูลจำเพาะของอุตสาหกรรม: Eaton Vickers 694 (I-286-S, M-2950-S/35VQ25 หรือ M-2952-S)
หมายเหตุ: น้ำมันไฮดรอลิกส่วนใหญ่เกือบจะไม่มีสี ทำให้การมองหาจุดรั่วได้ยาก สีย้อมน้ำมันไฮดรอลิกสีแดงมีจัดจำหน่ายเป็นขวดขนาด 20 มล. (0.67 ออนซ์ของเหลว) ซึ่งขวดหนึ่งก็เพียงพอแล้วสำหรับน้ำมันไฮดรอลิก 15 ถึง 22 ลิตร (4 ถึง 6 แกลลอนสหรัฐ) สามารถแจ้งหมายเลขสั่งซื้ออะไหล่ 44-2500 กับตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Toro
สำคัญ  
น้ำมันไฮดรอลิกสังเคราะห์ชนิดย่อยสลายทางชีวภาพเกรดพรีเมียมของ Toro เป็นน้ำมันสังเคราะห์ชนิดย่อยสลายทางชีวภาพเพียงรุ่นเดียวที่ได้รับการรับรองโดย Toro น้ำมันชนิดนี้เข้ากันได้กับอีลาสโตเมอร์ที่ใช้ในระบบไฮดรอลิก Toro และเหมาะสำหรับอุณหภูมิการทำงานที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังเข้ากันได้น้ำมันแร่ทั่วไปด้วย แต่เพื่อประสิทธิภาพในการย่อยสลายทางชีวภาพและสมรรถนะสูงสุด ควรล้างน้ำมันทั่วไปออกจากระบบไฮดรอลิกให้หมดจด น้ำมันมีจัดจำหน่ายแบบถัง 19 ลิตร (5 แกลลอน) หรือถังดรัม 208 ลิตร (55 แกลลอน) จากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Toro
 
ความจุถังไฮดรอลิก
28.4 ลิตร (7.5 แกลลอนสหรัฐ)
การตรวจสอบระดับน้ำมันไฮดรอลิก
ถังน้ำมันเติมน้ำมันไฮดรอลิกคุณภาพสูงมาแล้วจากโรงงาน
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. ทำความสะอาดบริเวณรอบช่องเติมและฝาของถังน้ำมันไฮดรอลิก
  3. Graphic
    G425419
  4. เปิดฝาถังน้ำมันไฮดรอลิก
  5. ดึงก้านวัด ออกจากช่องเติม และเช็ดด้วยผ้าขี้ริ้วสะอาด
  6. สอดก้านวัดลงในช่องเติม จากนั้นดึงออกมาดูระดับน้ำมัน
    ระดับน้ำมันไฮดรอลิกที่ถูกต้องต้องอยู่ระหว่างขีดเต็ม กับขีดเติม บนก้านวัด
  7. หากน้ำมันเหลือน้อย เติมน้ำมันไฮดรอลิกที่กำหนดจนกระทั่งระดับน้ำมันขึ้นมาถึงขีดเต็ม
  8. สอดก้านวัดและปิดฝาถังน้ำมันไฮดรอลิกให้แน่น
การเปลี่ยนตัวกรองไฮดรอลิก
ใช้ตัวกรองไฮดรอลิก Toro ดังต่อไปนี้:
ชื่อj
หมายเลขอะไหล่ Toro
ตำแหน่ง
ตัวกรองย้อนกลับ
94-2621
ใต้รางโครงอุปกรณ์ด้านขวา
ตัวกรองชาร์จ
75-1310
ใต้แผ่นรองเบาะที่นั่ง
สำคัญ  
การใช้ตัวกรองแบบอื่นอาจทำให้การรับประกันส่วนประกอบบางส่วนเป็นโมฆะ
 
การเปลี่ยนตัวกรองชาร์จ
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. เอียงเบาะที่นั่ง
  3. Graphic
    G425433
  4. ทำความสะอาดบริเวณรอบๆ ตัวกรองชาร์จ และหัวกรอง
  5. วางอ่างระบายใต้ตัวกรองและถอดตัวกรองออก
  6. ใช้ผ้าสะอาดเช็ดพื้นผิวบนหัวกรองบริเวณที่จะยึดตัวกรอง
  7. หล่อลื่นปะเก็นตัวกรองอันใหม่และเติมน้ำมันไฮดรอลิกที่กำหนดลงในตัวกรอง
  8. หมุนเกลียวตัวกรองเข้ากับหัวกรอง จนกว่าปะเก็นแตะกับแผ่นยึด จากนั้นขันตัวกรองเพิ่มอีก 1/2 รอบ
การเปลี่ยนตัวกรองย้อนกลับ
    Graphic
    G425445
  1. ทำความสะอาดบริเวณรอบๆ ตัวกรองย้อนกลับ และหัวกรอง
  2. วางอ่างระบายใต้ตัวกรองย้อนกลับและถอดตัวกรองออก
  3. ใช้ผ้าสะอาดเช็ดพื้นผิวบนหัวกรองบริเวณที่จะยึดตัวกรอง
  4. หล่อลื่นปะเก็นตัวกรองอันใหม่และเติมน้ำมันไฮดรอลิกที่กำหนดลงในตัวกรอง จากนั้นระบายของเหลวออกจากตัวกรอง
  5. หมุนเกลียวตัวกรองเข้ากับหัวกรอง จนกว่าปะเก็นแตะกับแผ่นยึด จากนั้นขันตัวกรองเพิ่มอีก 1/2 รอบ
การไล่อากาศออกจากระบบไฮดรอลิก
  1. สตาร์ทเครื่องยนต์ และปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานประมาณ 2 นาทีเพื่อไล่อากาศออกจากระบบ
  2. ตรวจสอบการรั่วไหลรอบๆ ตัวกรองและหัวกรอง
    หมายเหตุ: ซ่อมแซมจุดรั่วไหลในระบบไฮดรอลิกทั้งหมด
  3. ดับเครื่องยนต์และดึงกุญแจออก
  4. ลดระดับเบาะที่นั่งลงมา
การเปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิก
การระบายน้ำมันไฮดรอลิก
หากน้ำมันปนเปื้อน ติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Toro ในพื้นที่เนื่องจากต้องมีการล้างระบบ น้ำมันที่ปนเปื้อนจะดูขุ่นหรือเป็นสีดำเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันสะอาด
ความจุอ่างระบาย: 30 ลิตร (8 แกลลอนสหรัฐ) ขึ้นไป
  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา
  2. เปิดกระโปรงของอุปกรณ์
  3. วางอ่างระบายใต้ถังน้ำมันไฮดรอลิก
  4. Graphic
    G425446
  5. ถอดท่อไหลกลับ ออกจากข้อต่อตรง ที่ด้านล่างของถัง แล้วระบายน้ำมันไฮดรอลิกออก
  6. หลังจากน้ำมันไฮดรอลิกหยุดไหล ให้ประกอบท่อไหลกลับเข้ากับข้อต่อของถัง
  7. ขันข้อต่อท่อจนได้แรงบิด 50 ถึง 63 Nm (37 ถึง 47 ft-lb)
การเติมน้ำมันไฮดรอลิก
  1. เติมน้ำมันไฮดรอลิกลงในถัง
    สำคัญ  
    ใช้เฉพาะน้ำมันไฮดรอลิกที่กำหนดเท่านั้น เพราะน้ำมันอื่นๆ อาจทำให้ระบบเสียหาย
     
  2. Graphic
    G425457
  3. สอดก้านวัด และปิดฝาถังน้ำมันไฮดรอลิก ให้แน่น
  4. สตาร์ทเครื่องยนต์และใช้งานการควบคุมไฮดรอลิกทั้งหมดเพื่อจ่ายน้ำมันไฮดรอลิกให้ทั่วระบบ
  5. ตรวจสอบน้ำมันไฮดรอลิกรั่วไหล ดับเครื่องยนต์ และดึงกุญแจออก
    หมายเหตุ: ซ่อมแซมจุดรั่วไหลในระบบไฮดรอลิกทั้งหมด
  6. ปิดและล็อกสลักฝากระโปรงอุปกรณ์
  7. ตรวจสอบระดับน้ำมันและน้ำยา
    หมายเหตุ: หากจำเป็น ให้เติมน้ำมันจนถึงขีดเต็มบนก้านวัด อย่าเติมน้ำมันไฮดรอลิกมากเกินไป

การบำรุงรักษาชุดตัดหญ้า

การลับคมชุดตัดหญ้า
คำเตือน
การสัมผัสกับชุดตัดหญ้าหรือชิ้นส่วนเคลื่อนไหวอื่นๆ อาจทำให้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บร้ายแรง
  • เก็บนิ้ว มือ และเสื้อผ้าออกห่างจากชุดตัดหญ้าและชิ้นส่วนเคลื่อนไหวอื่นๆ
  • อย่าพยายามหมุนชุดตัดหญ้าด้วยมือหรือเท้าขณะที่เครื่องยนต์ทำงานอยู่โดยเด็ดขาด
 
หมายเหตุ: คำแนะนำและขั้นตอนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลับคมดูได้ในคู่มือลับคมใบมีดพวงและเครื่องตัดหญ้าโรตารีของ Toro หมายเลขแบบฟอร์ม 80-300SL
การเตรียมอุปกรณ์
  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ ลดชุดตัดหญ้าลงมา เข้าเบรกจอด ดับเครื่องยนต์ และดันสวิตช์ PTO ไปที่ตำแหน่งปลดการทำงาน
  2. เปิดกระโปรงของอุปกรณ์
  3. ปรับใบมีดพวงกับใบมีดล่างในตอนเริ่มแรกให้เหมาะสมสำหรับการลับคมบนชุดตัดหญ้าทั้งหมดที่ต้องการจะลับคม โปรดดูคู่มือผู้ใช้ของชุดตัดหญ้า
  4. หมุนค้นโยกลับคมด้านหน้า ด้านหลัง และทั้งคู่ไปยังตำแหน่ง R (ลับคม)
    Graphic
    G425458
    Graphic
    G425459
    1. คันโยกลับคม (ชุดตัดหญ้าส่วนหน้า 4, 1 และ 5)
    2. คันโยกลับคม (ชุดตัดหญ้าส่วนท้าย 2 และ 3)
    3. หมุนมาด้านหลัง (ลับคม)
การลับคมใบมีดพวงและใบมีดล่าง
คำเตือน
การเปลี่ยนความเร็วเครื่องยนต์ระหว่างลับคมใบมีดอาจทำให้ชุดตัดหญ้าหยุดทำงานกะทันหัน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บร้ายแรงได้
  • ห้ามเปลี่ยนความเร็วเครื่องยนต์ขณะลับคมโดยเด็ดขาด
  • ลับคมด้วยความเร็วเครื่องยนต์ที่เดินรอบเบาเท่านั้น
 
หมายเหตุ: ขณะลับคม ส่วนด้านหน้าทั้งหมดจะทำงานด้วยกัน และส่วนด้านหลังจะทำงานด้วยกัน
  1. ตรวจสอบว่าแป้นขับเคลื่อนอยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่างและเบรกจอดทำงานอยู่
  2. สตาร์ทเครื่องยนต์และปล่อยให้เดินรอบเบา
  3. Graphic
    G425460
  4. ดันคันโยกของสวิตช์จำกัดความเร็วการตัดหญ้า ไปด้านหน้าไปยังตำแหน่ง ตัดหญ้า
  5. กดสวิตช์ PTO ไปที่ตำแหน่ง ใช้งาน
  6. ดันคันควบคุมการยก/ลดชุดตัดหญ้า ไปด้านหน้า
    หมายเหตุ: พวงใบมีดที่คุณต้องการลับคมจะทำงานไปด้านหลัง
  7. ใช้แปรงด้ามยาวทากากเพชรลับคมบนใบมีดพวง
    อันตราย
    การสัมผัสชุดตัดหญ้าขณะที่ใบมีดกำลังทำงานอาจทำให้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บร้ายแรง
    • ห้ามใช้แปรงด้ามสั้น
    • เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ ต้องอยู่ให้ห่างจากชุดตัดหญ้าก่อนดำเนินการต่อ
     
  8. หากใบมีดพวงหยุดหรือส่ายขณะลับคม ให้เพิ่มความเร็วลิ้นเร่งจนกว่าใบมีดพวงคงที่
  9. หากคุณจำเป็นต้องปรับชุดตัดหญ้าขณะลัมคม ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:
    1. ดันคันควบคุมการยก/ลดชุดตัดหญ้าไปด้านหลัง
      หมายเหตุ: ชุดตัดหญ้าจะหยุดทำงาน แต่ไม่ยกขึ้น
    2. กดสวิตช์ PTO ไปที่ตำแหน่งปลดทำงาน
    3. ดับเครื่องยนต์และดึงกุญแจออก
    4. ปรับชุดตัดหญ้า
    5. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 2 ถึง 7
  10. ทำซ้ำขั้นตอน 6 กับชุดตัดหญ้าทั้งหมดที่ต้องการลับคม
ลับคมจนเสร็จสิ้น
สำคัญ  
หากคุณไม่ดันสวัตช์ลับคมไปยังตำแหน่งปิด หลังจากลับคม ชุดตัดหญ้าจะไม่ยกขึ้นหรือทำงานไม่ถูกต้อง
 
  1. ดับเครื่องยนต์และดึงกุญแจออก
  2. ล้างกากเพชรลับคมทั้งหมดออกจากชุดตัดหญ้า
  3. ปรับระยะใบมีดพวงกับใบมีดล่างของชุดตัดหญ้าตามที่จำเป็น
  4. หมุนคันโยกลับคมไปที่ตำแหน่ง F (ตัดหญ้า)
    Graphic
    G425519
    1. คันโยกลับคม (ชุดตัดหญ้าส่วนหน้า 4, 1 และ 5)
    2. คันโยกลับคม (ชุดตัดหญ้าส่วนท้าย 2 และ 3)
    3. หมุนไปด้านหน้า (ตัดหญ้า)
  5. เพื่อให้คมใบมีดคมมากขึ้น ใช้ตะไบขัดด้านหน้าใบมีดล่างหลังจากลับใบมีด
    หมายเหตุ: การทำแบบนี้จะช่วยลบเสี้ยนและขอบที่ไม่เรียบที่อาจเกิดขึ้นบนขอบคมของใบมีด
  6. ปิดและล็อกสลักฝากระโปรงอุปกรณ์

การบำรุงรักษาแชสซี

การตรวจสอบเข็มขัดนิรภัย
  1. ตรวจสอบว่าเข็มขัดนิรภัยมีการสึกหรอ รอยตัด และความเสียหายอื่นๆ หรือไม่ เปลี่ยนเข็มขัดนิรภัยหากส่วนประกอบใดๆ ทำงานไม่ถูกต้อง
  2. เช็ดทำความสะอาดเข็มขัดนิรภัยตามความจำเป็น

การทำความสะอาด

การล้างอุปกรณ์
  1. ล้างอุปกรณ์ตามที่จำเป็นโดยใช้น้ำเปล่าหรือน้ำผสมน้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ คุณอาจใช้ผ้าขี้ริ้วล้างอุปกรณ์ได้
    สำคัญ  
    • อย่าใช้น้ำกร่อยหรือน้ำหมุนเวียนล้างอุปกรณ์
    • อย่าใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันในการล้างอุปกรณ์ เครื่องฉีดน้ำแรงดันอาจสร้างความเสียหายให้ระบบไฟฟ้า ทำให้สติกเกอร์ที่สำคัญหลุดหาย หรือล้างจาระบีที่จำเป็นบริเวณจุดเสียดสีออกไป หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมากเกินไปใกล้กับแผงควบคุม เครื่องยนต์ และแบตเตอรี่
    • ห้ามล้างอุปกรณ์ขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน การสร้างอุปกรณ์ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานอยู่อาจส่งผลให้เครื่องยนต์ภายในเสียหาย
     
 
 
 
การจัดเก็บ
 

การจัดเก็บอุปกรณ์

  1. จอดอุปกรณ์บนพื้นราบ ลดชุดตัดหญ้าลงมา เข้าเบรกจอด ดับเครื่องยนต์ และดึงกุญแจออกออก
  2. ทำความสะอาดรถตัดหญ้า ชุดตัดหญ้า และเครื่องยนต์ให้หมดจด
  3. ตรวจสอบแรงดันลมยาง
  4. ตรวจสอบตัวยึดทั้งหมดว่าหลวมหรือไม่ และขันให้แน่นตามความจำเป็น
  5. อัดจาระบีหรือทาน้ำมันที่จุดอัดจาระบีและจุดหมุนทั้งหมด เช็ดน้ำมันหล่อลื่นที่เกินมาออก
  6. ขัดเบาๆ และทาสีซ่อมแซมสีบนบริเวณที่มีรอยขูด แตก หรือเป็นสนิม ซ่อมแซมรอยบุ๋มในตัวถังโลหะ
  7. ซ่อมบำรุงแบตเตอรี่และสายไฟดังนี้:
    1. ถอดขั้วแบตเตอรี่จากเสาแบตเตอรี่
    2. ทำความสะอาดแบตเตอรี่ ขั้ว และเสาแบตเตอรี่ด้วยแปรงลวดและส่วนผสมเบกกิ้งโซดา
    3. เคลือบขั้วสายไฟและเสาแบตเตอรี่ด้วยจาระบีแบบสกินโอเวอร์ Grafo 112X (หมายเลขชิ้นส่วน Toro 505-47) หรือปิโตรเลียมเจลลี่เพื่อป้องกันการสึกกร่อน
    4. ชาร์จแบตเตอรี่อย่างช้าๆ ทุกๆ 60 วันนาน 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เกิดตะกั่วซัลเฟต
  8. เตรียมเครื่องยนต์ตามขั้นตอนต่อไปนี้:
    1. ระบายน้ำมันเครื่องออกจากอ่างน้ำมันและปิดจุกระบาย
    2. ถอดตัวกรองน้ำมันทิ้งไป ติดตั้งตัวกรองน้ำมันชิ้นใหม่
    3. เติมน้ำมันมอเตอร์ที่กำหนดลงในเครื่องยนต์
    4. สตาร์ทเครื่องยนต์และให้เดินรอบเบาประมาณ 2 นาที
    5. ดับเครื่องยนต์และดึงกุญแจออก
    6. ล้างถังเชื้อเพลิงด้วยน้ำมันใหม่และสะอาด
    7. ยึดข้อต่อระบบเชื้อเพลิงทั้งหมดให้แน่น
    8. ทำความสะอาดและซ่อมบำรุงระบบกรองอากาศอย่างละเอียด
    9. ผนึกช่องอากาศเข้าและช่องอากาศออกด้วยเทปทนฝนและแดด
    10. ตรวจสอบการป้องกันน้ำแข็งตัว และเติมส่วนผสมน้ำกับสารป้องกันน้ำแข็งตัวเอทิลีนไกลคอลในสัดส่วน 50/50 ตามที่จำเป็น โดยพิจารณาจากอุณหภูมิต่ำสุดที่คาดการณ์ในพื้นที่ของคุณ

การจัดเก็บแบตเตอรี่

หากคุณจัดเก็บอุปกรณ์ไว้นานกว่า 30 วัน ให้ถอดแบตเตอรี่ออกมาชาร์จให้เต็ม เก็บแบตเตอรี่บนชั้นหรือในเครื่อง แต่หากเก็บไว้ในอุปกรณ์ ให้ถอดสายไฟออก จัดเก็บแบตเตอรี่ในสถานที่เย็น เพื่อไม่ให้ประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่คลายเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เย็นจัด ให้ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม ความถ่วงจำเพาะของแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มคือ 1.265 ถึง 1.299