ความปลอดภัย

  • รถลากพ่วง TransPro 200 ออกแบบมาให้ใช้ร่วมกับเครื่องตัดหญ้า Greensmaster แบบเดินตามเท่านั้น การลากพ่วงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วมกันไม่ได้ อาจส่งผลให้รถลากพ่วงเสียหายและ/หรือผู้ปฏิบัติงานได้รับบาดเจ็บ ดูรายการอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้ร่วมกันได้ใน อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันได้

  • ใช้เฉพาะยานพาหนะที่มีกำลังลากจูงเหมาะสมเท่านั้น รถลากพ่วง TransPro 200 และเครื่องตัดหญ้าสนามกรีน 2 เครื่องมีน้ำหนักรวมกันประมาณ 522 กก. (1,150 ปอนด์) นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบด้วยว่ายานพาหนะลากจูงมีความสามารถในการเบรกและการควบคุมเพียงพอ โดยการตรวจสอบคำแนะนำจากผู้ผลิตยานพาหนะ

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ได้ต่อรถลากพ่วงเข้ากับยานพาหนะลากจูงอย่างถูกต้องแล้วก่อนจะบรรทุกหรือลำเลียงเครื่องตัดหญ้าสนามกรีนลง ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เหล็กยึดเคลื่อนโดยไม่ได้ตั้งใจหรือเกิดการพลิกคว่ำกะทันหัน ชุดเหล็กยึดรถลากพ่วงจะต้องขนานกับพื้นเมื่อติดตั้งเข้ากับข้อต่อของยานพาหนะลากจูง

  • รถลากพ่วงทำให้ยานพาหนะลากจูงต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรขับขี่ยานพาหนะอย่างปลอดภัย

    • ห้ามขับอุปกรณ์บนทางหลวงหรือถนนสาธารณะ

    • ชะลอความเร็วของยานพาหนะลากจูงเสมอเมื่อใกล้เข้าโค้งหรือขณะกำลังเลี้ยว

    • ชะลอความเร็วของยานพาหนะลากจูงเสมอเมื่อขับขี่บนเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยหรือขรุขระ

    • ชะลอความเร็วของยานพาหนะลากจูงเสมอเมื่อเปลี่ยนทิศทางหรือเตรียมจะหยุด

    • ชะลอความเร็วของยานพาหนะลากจูงเสมอเมื่อเลี้ยวหรือขับบนทางลาดชัน

    • ห้ามเลี้ยวกะทันหันหรือเลี้ยวหักศอก ห้ามเปลี่ยนทิศทางกะทันหันขณะขับขี่บนทางลาด ทางชัน เนิน หรือพื้นผิวที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

    • ความเร็วในการลากจูงสูงสุด 24 กม./ชม. (15 ไมล์ต่อชม.) ปรับความเร็วของยานพาหนะลากจูงให้เหมาะกับสภาพเส้นทาง เช่น พื้นผิวเปียกลื่น ทรายร่วนหรือหินกรวด และ/หรือวิสัยทัศน์ที่ไม่ดี เช่น แสงน้อยหรือสว่างจ้า หมอก ไอน้ำ หรือฝนตก

    • ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อขับขี่ยานพาหนะลากจูงที่บรรทุกน้ำหนักมากลงทางลาดหรือเนิน ควรขับขี่ยานพาหนะขึ้นหรือลงจากด้านหน้าของเนิน ทางลาด หรือทางชัน เมื่อทำได้ ห้ามขับขี่ตัดขวางด้านหน้าของเส้นทางลาดชันอย่างเด็ดขาด ถ้าเป็นไปได้ เพราะยานพาหนะอาจพลิกคว่ำ ซึ่งส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้

  • ก่อนถอยหลัง ให้หันไปมองด้านหลังและตรวจสอบว่าไม่มีคนหรือวัตถุใดๆ กีดขวางเส้นทาง จากนั้นถอยหลังช้าๆ และสังเกตการเคลื่อนที่ของรถลากพ่วงอย่างใกล้ชิด

  • ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษและชะลอความเร็วลงขณะถอยรถลากพ่วงและยานพาหนะลากจูงไปด้านหลัง

  • ตรวจสอบการจราจรเมื่อเข้าใกล้หรือต้องข้ามถนน หลีกทางให้คนเดินถนนและยานพาหนะอื่นๆ ก่อนเสมอ

  • หยุดยานพาหนะลากจูงทันทีหากรถลากพ่วงเริ่มสั่นผิดปกติ จากนั้นดับเครื่องยนต์ยานพาหนะลากจูง แล้วซ่อมความเสียหายทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อนจะกลับมาลากจูงอีกครั้ง

  • ก่อนซ่อมบำรุงหรือปรับรถลากพ่วง ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

    • หยุดพาหนะลากจูง และดึงเบรกมือ

    • ดับเครื่องยนต์ของยานพาหนะลากจูงและดึงกุญแจออก

  • ขณะปลดรถลากพ่วงออกจากยานพาหนะลากจูง ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

    • จอดรถลากพ่วงบนพื้น

    • ขัดล้อเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้รถลากพ่วงขยับ

  • ตัวยึดทั้งหมดจะต้องขันแน่นหนา ใส่ชิ้นส่วนที่ถอดออกมาในขั้นตอนการซ่อมบำรุงหรือการปรับกลับเข้าไปใหม่

สติกเกอร์ความปลอดภัยและคำแนะนำ

Graphic

ป้ายและคำแนะนำด้านความปลอดภัยมองเห็นได้ชัดเจน และติดอยู่ใกล้กับบริเวณที่มีโอกาสเกิดอันตราย เปลี่ยนป้ายที่เสียหายหรือหายไป

decal133-8061
decal140-5279
decal140-5280
decal140-5281

การติดตั้ง

การประกอบชุดอุปกรณ์ติดตั้งที่เหมาะสม

คุณสามารถเลือกติดตั้งชุดอุปกรณ์ดังต่อไปนี้อย่างใดอย่างหนึ่งได้ตามต้องการ

การประกอบชุดอุปกรณ์ขนย้ายด้วยราง

ชิ้นส่วนที่ต้องใช้สำหรับขั้นตอนนี้:

ชุดทางลาด2
ทางลาดแนวราบ2
แผ่นนำทาง2
ชุดสลัก2
เกลียวเร่งปรับความตึงสายโซ่2
เกลียวเร่งปรับความตึงโซ่ข้อ2
แผ่นหยุดล้อ2
สกรูหัวหกเหลี่ยมแบบหน้าแปลน10
หมุดปัก2
น็อตมีบ่า10
สปริงดึง2
หมุดเดือย2
แหวนล็อก2
สกรูหัวหกเหลี่ยมติดแหวน6
กันชน2
น็อตล็อก2
น็อตมีบ่า (5/16 นิ้ว)4
สายโซ่2
ข้อต่อโซ่2
น็อตสวมทับ2
สลักเกลียวหัวกลม4

Note: ประกอบรางด้านซ้ายและด้านขวาตามขั้นตอนต่อไปนี้ ภาพประกอบต่อไปนี้แสดงภาพด้านขวาของชุดอุปกรณ์ขนย้ายด้วยราง

  1. ติดตั้งสลักเกลียวหัวกลมและน็อตมีบ่า (1/4 นิ้ว) เข้ากับชุดทางลาด (รูป 1)

    g348132
  2. ยึดแผ่นหยุดล้อเข้ากับชุดรางด้วยหมุดและสกรูหัวหกเหลี่ยม (รูป 2)

    g340445
  3. ติดตั้งสายโซ่เข้ากับเกลียวเร่งปรับความตึงสายโซ่โดยใช้ข้อต่อโซ่ (รูป 3)

    g348128
  4. ติดตั้งเพลาหกเหลี่ยมเข้ากับเกลียวเร่งปรับความตึงสายโซ่ (รูป 3)

  5. ติดตั้งเกลียวเร่งปรับความตึงโซ่ข้อเข้ากับเพลาหกเหลี่ยมโดยใช้น็อตสวมทับ (รูป 3)

  6. ติดตั้งเกลียวเร่งปรับความตึงโซ่ข้อเข้ากับแผ่นหยุดล้อโดยใช้ข้อต่อโซ่ (รูป 4)

    g341266
  7. ต่อสปริงเข้ากับแผ่นหยุดล้อและสลักเกลียวด้านในชุดราง (รูป 5)

    g341267
  8. ใช้น็อตมีบ่า (5/16 นิ้ว) 1 ตัว แหวน 2 อัน และสลักเดือย 1 ตัว ยึดชุดทางลาดเข้ากับชุดราง (รูป 6)

    g340144
  9. ติดตั้งสายโซ่เข้ากับชุดทางลาดโดยใช้ข้อต่อโซ่ (รูป 7)

    g348131
  10. ใช้สกรูหัวหกเหลี่ยม 10 ตัว ยึดฝาครอบโซ่เข้ากับชุดทางลาด (รูป 8)

    g342431
  11. ตรวจสอบความยาวของช่องว่างกันเลื่อน โปรดดู การตรวจสอบระยะหยุด

การประกอบชุดอุปกรณ์ขนย้ายด้วยล้อ

ชิ้นส่วนที่ต้องใช้สำหรับขั้นตอนนี้:

ชุดรางด้านขวา1
ชุดรางด้านซ้าย1
ทางลาดฝั่งซ้ายของราง1
ทางลาดฝั่งขวาของราง1
ชุดสลัก2
แผ่นหยุดล้อ2
หมุดปัก2
ฝาครอบโซ่2
สายโซ่2
ข้อต่อโซ่2
ยางกันชน2
สกรูหัวหกเหลี่ยม22
เกลียวเร่งปรับความตึงสายโซ่2
เกลียวเร่งปรับความตึงโซ่ข้อ2
สกรูหัวหกเหลี่ยมแบบมีเกลียว2
สปริงดึง2
น็อตสวมทับ2
สลักเกลียวหัวกลม2
น็อตมีบ่า (1/4 นิ้ว)2
สลักเดือย2
แหวน4
น็อตมีบ่า (5/16 นิ้ว)2

Note: ประกอบทางลาดล้อด้านซ้ายและด้านขวาตามขั้นตอนต่อไปนี้ ภาพประกอบต่อไปนี้แสดงภาพด้านขวาของชุดอุปกรณ์ขนย้ายด้วยล้อ

  1. ใช้สกรูหัวดาวหกแฉก 4 ตัวและน็อต (5/16 นิ้ว) 4 ตัว ยึดโครงยึดหมุดสลักเข้ากับแผ่นนำทางบนชุดทางลาด (รูป 9)

    g345943
  2. ใช้สลักเกลียว (5/16 x 3/4 นิ้ว) 10 ตัว และน็อตกันคลาย (5/16 นิ้ว) 10 ตัว ยึดแผ่นนำทางเข้ากับชุดทางลาด (รูป 10)

    ในการติดตั้งแผ่นนำทางจะต้องหันหมุดสลักออกด้านนอก สำหรับภาพประกอบการติดตั้งแผ่นนำทางที่ถูกต้อง โปรดดู รูป 30 ใน การบรรทุกด้วยรถลากพ่วง

    g345954
  3. ติดตั้งกันชนเข้ากับชุดทางลาดโดยใช้น็อต (1/4 นิ้ว) 1 ตัว (รูป 11)

    g340443
  4. ยึดแผ่นหยุดล้อเข้ากับชุดทางลาดด้วยหมุดปักและสกรูหัวหกเหลี่ยม (รูป 12)

    g340442
  5. ติดตั้งสายโซ่เข้ากับเกลียวเร่งปรับความตึงสายโซ่โดยใช้ข้อต่อโซ่ (รูป 13)

    g348128
  6. ติดตั้งเพลาหกเหลี่ยมเข้ากับเกลียวเร่งปรับความตึงสายโซ่ (รูป 13)

  7. ติดตั้งเกลียวเร่งปรับความตึงโซ่ข้อเข้ากับเพลาหกเหลี่ยมโดยใช้น็อตสวมทับ (รูป 13)

  8. ติดตั้งเกลียวเร่งปรับความตึงโซ่ข้อเข้ากับแผ่นหยุดล้อโดยใช้ข้อต่อโซ่ (รูป 14)

    g341296
  9. ต่อสปริงเข้ากับแผ่นหยุดล้อและด้านล่างของทางลาด (รูป 15)

    g341295
  10. ใช้หมุดเดือยและปิ๊นตัวอาร์ ยึดชุดทางลาดเข้ากับชุดราง (รูป 16)

    g349912
  11. ติดตั้งสายโซ่แต่ละเส้นเข้ากับชุดทางลาดโดยใช้ข้อต่อโซ่ (รูป 17)

    g348127

การประกอบรถลากพ่วง

ชิ้นส่วนที่ต้องใช้สำหรับขั้นตอนนี้:

ส่วนรองรับตรงกลาง1
ชุดโครงหลัก1
สกรู (3/8 นิ้ว)2
แกนรองรับ2
หมุด4
โครงรองรับลูกกลิ้ง2
สลักเกลียวหัวกลม6
น็อตมีบ่า (5/16 นิ้ว)6
ชุดเหล็กยึดรถลากพ่วง1
สลัก (7/16 นิ้ว)2
น็อตล็อก2
แหวน4
ล้อยาง2
น็อตล้อ8

การติดตั้งแกนรองรับเข้ากับชุดโครงหลัก

  1. วางส่วนรองรับตรงกลางบนชุดโครงหลักดังแสดงใน รูป 18

    g338068
  2. ให้ผู้ช่วยอีกคนหนึ่งจับชุดล้อหรือชุดรางและส่วนรองรับตรงกลางไว้กับที่ จากนั้นสอดแกนรองรับผ่านรูเข้าไปในชุดอุปกรณ์ ส่วนรองรับตรงกลาง และชุดโครงหลัก (รูป 19)

    g338066
  3. ใส่หมุด 4 ตัวเข้าไปในรูบนชุดล้อหรือชุดรางตามความกว้างของอุปกรณ์ โปรดดู การปรับความกว้างของรถลากพ่วง

การยึดส่วนรองรับตรงกลางเข้ากับชุดโครงหลัก

ใช้สกรู 2 ตัว (3/8 นิ้ว) ยึดส่วนรองรับตรงกลางเข้ากับชุดโครงหลัก (รูป 20)

g339765

การติดตั้งล้อ

  1. ติดตั้งชุดประกอบล้อเข้ากับดุมล้อแต่ละจุดด้วยน็อตล้อ 4 ตัว (รูป 21)

    g338044
  2. ขันน็อตล้อจนได้แรงบิดตามที่ระบุไว้ใน การตรวจสอบแรงบิดของน็อตล็อกล้อ

  3. ปล่อยลมยางจนได้ค่าแรงดันที่กำหนดไว้ใน การตรวจสอบแรงดันลมยาง

การติดตั้งโครงรองรับลูกกลิ้งเข้ากับส่วนรองรับตรงกลาง

ใช้สลักเกลียวหัวกลม 6 ตัว และน็อตมีบ่า (5/16 นิ้ว) 6 ตัว ยึดโครงรองรับลูกกลิ้งเข้ากับส่วนรองรับตรงกลาง (รูป 22)

ติดตั้งตัวยึดไว้หลวมๆ ให้สามารถขยับโครงรองรับลูกกลิ้งไปมาบนส่วนรองรับตรงกลางได้ จากนั้นค่อยขันตัวยึดเพื่อยึดโครงรองรับลูกกลิ้งให้แน่นหนาหลังจากบรรทุกอุปกรณ์ขึ้นรถลากพ่วงแล้ว โปรดดู การบรรทุกด้วยรถลากพ่วง

g339764

การติดตั้งชุดเหล็กยึดรถลากพ่วงเข้ากับชุดโครงหลัก

  1. ใช้สลักเกลียว (7/16 นิ้ว) 2 ตัว แหวน 4 อัน และน็อตล็อก 2 ตัว ยึดชุดเหล็กยึดรถลากพ่วงเข้ากับชุดโครงหลัก (รูป 23)

    ชุดเหล็กยึดของรถลากพ่วงจะต้องขนานกับพื้นเมื่อพ่วงรถลากพ่วงเข้ากับยานพาหนะลากจูง ตรวจสอบให้ชุดเหล็กยึดขนานกับพื้นก่อนขันน็อตยึด

    g338045
  2. ขันจนได้แรงบิด 95 นิวตันเมตร (70 ฟุตปอนด์)

การปฏิบัติงาน

อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันได้

รถลากพ่วงคันนี้ออกแบบสำหรับใช้งานร่วมกับเครื่องตัดหญ้า Greensmaster แบบเดินตามรุ่นต่อไปนี้โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งชุดอุปกรณ์เพิ่มเติม

อุปกรณ์รุ่น
Greensmaster 101804820
Greensmaster 102104830
Greensmaster Flex 101804850
Greensmaster Flex 102104860
Greensmaster e102104831
Greensmaster eFlex 102104861

รถลากพ่วงนี้สามารถต่อพ่วงกับเครื่องตัดหญ้า Greensmaster แบบเดินตามรุ่นต่อไปนี้ โดยต้องใช้อุปกรณ์ติดตั้งเพิ่มเติม (มีจำหน่ายแยก)

  • Greensmaster Flex 18/21 Series

  • Greensmaster Flex 1800/2100 Series (รวมถึง eFlex)

  • Greensmaster 800/1000 Series

โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากตัวแทนจำหน่าย Toro ที่ได้รับอนุญาต

การปรับความกว้างของรถลากพ่วง

Note: รถตัดหญ้าสนามกรีนที่มีความกว้างมากกว่า 21 นิ้ว (เช่น Greensmaster 1026) ไม่สามารถบรรทุกบนรถลากพ่วงได้

  • การปรับรถลากพ่วงเพื่อใช้งานร่วมกับเครื่องตัดหญ้าสนามกรีนขนาด 18 นิ้ว: ใช้หมุดยึดเดือยหมุนของรางเข้ากับรูด้านใน (รูป 24)

    g341332
  • การปรับรถลากพ่วงเพื่อใช้งานร่วมกับเครื่องตัดหญ้าสนามกรีนขนาด 21 นิ้ว: ใช้หมุดยึดเดือยหมุนของรางเข้ากับรูด้านนอก (รูป 25)

    g341333

การยึดรถลากพ่วงเข้ากับยานพาหนะลากจูง

  1. ยกที่จับชุดเหล็กยึดขึ้นมา (รูป 26)

    Note: เมื่อยกที่จับขึ้นมา ชุดเลื่อนจะหดกลับเข้าไป

    g337017
  2. ใส่สลักชุดเหล็กยึดให้ตรงกับข้อต่อของยานพาหนะลากจูง (รูป 27)

    g338301
  3. ปล่อยที่จับชุดเหล็กยึด (รูป 27) เพื่อยึดรถลากพ่วงเข้ากับข้อต่อของยานพาหนะลากจูง

    ตรวจสอบให้ตำแหน่งของชุดเลื่อนอยู่ตรงกลางใต้สลักชุดเหล็กยึด

การบรรทุกด้วยรถลากพ่วง

การเตรียมรถลากพ่วงสำหรับการบรรทุก

  1. ขัดล้อของรถลากพ่วงเอาไว้

  2. ดึงหมุดสลักที่ทั้งสองฝั่งของรถลากพ่วงเพื่อปลดรางหรือทางลาด และลดระดับลงมาบนพื้น (รูป 28)

    g338736
  3. ถอดตะกร้าหญ้าออกจากเครื่องตัดหญ้าสนามกรีน

    Note: คุณสามารถเก็บตะกร้าหญ้าไว้ในยานพาหนะลากจูงได้

  4. โปรดดูคำแนะนำสำหรับชุดทางลาดหรือชุดรางที่ติดตั้งดังต่อไปนี้:

    • ชุดราง: ติดตั้งล้อรางบนเพลาหกเหลี่ยม (รูป 29)

      Note: ช่องเสียบคลิปของล้อรางสำหรับเครื่องตัดหญ้า Greensmaster แบบเดินตามทุกรุ่นต้องหันออกด้านนอก

      g261683
    • ชุดล้อ: ติดตั้งล้อขนส่งบนเพลาหกเหลี่ยม โปรดดูคู่ผู้ใช้ของรถตัดหญ้า

การบรรทุกอุปกรณ์ขึ้นรถลากพ่วง

  1. ใช้ทางลาดแบบเรียบหรือรางค่อยๆ เคลื่อนอุปกรณ์ขึ้นไปบนรถลากพ่วง จนกระทั่งลูกกลิ้งด้านหน้าสอดเข้าไปโครงรองรับลูกกลิ้ง (รูป 30)

    Note: เมื่อบรรทุกอุปกรณ์บนรถลากพ่วงเป็นครั้งแรก อย่าเพิ่งขันตัวยึดของโครงรองรับลูกกลิ้งจนแน่น เพื่อให้โครงรองรับลูกกลิ้งขยับไปด้านหน้าได้

  2. ดับเครื่องยนต์ของอุปกรณ์และใช้เบรกจอด

  3. หากคุณบรรทุกอุปกรณ์สองเครื่อง ให้ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 และ 2 สำหรับอุปกรณ์เครื่องที่สอง ตรวจสอบให้ลูกกลิ้งด้านหน้าอยู่ภายในโครงรองรับลูกกลิ้ง

  4. ยกทางลาดขึ้นและใช้หมุดสลัก (รูป 30)

    • กรณีติดตั้งชุดล้อ: เมื่อยกทางลาดขึ้นมา หมุดสลักจะทำงานโดยอัตโนมัติและยึดเข้ากับโครงล็อก เพื่อล็อกทางลาดให้อยู่ในตำแหน่งยกขึ้น

    • กรณีติดตั้งชุดราง: ยกหมุนสลักขึ้น ยกทางลาดขึ้น จากนั้นปล่อยหมุดสลักเพื่อล็อกทางลาดให้อยู่ในตำแหน่งยก

    g338779
  5. หากคุณบรรทุกอุปกรณ์ด้วยรถลากพ่วงเป็นครั้งแรก ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อยึดอุปกรณ์อยู่กับที่

    1. ขณะที่ทางลาดล็อกอยู่ในตำแหน่งยก ให้เลื่อนส่วนท้ายของอุปกรณ์ไปทางด้านหลังรถลากพ่วงจนกระทั่งล้อขนส่งหรือล้อรางสัมผัสกับทางลาด

    2. เลื่อนโครงรองรับลูกกลิ้งด้านหลัง (รูป 31) มาทางด้านหลัง จนกระทั่งสัมผัสกับลูกกลิ้งด้านหน้าของอุปกรณ์เครื่องที่อยู่ด้านหลัง

      g342551
    3. ตรวจสอบให้ลูกกลิ้งด้านหน้าวางอยู่ใต้โครงรองรับลูกกลิ้งด้านหน้าอย่างสมบูรณ์ จากนั้นขันน็อตมีบ่าเพื่อยึดโครงรองรับลูกกลิ้งด้านหน้าให้แน่นหนา โปรดดู การตรวจสอบแรงบิดของตัวยึดโครงรองรับลูกกลิ้ง

    4. ขยับอุปกรณ์ด้านหน้าไปทางด้านหลังจนกระทั่งล้อขนส่งหรือล้อรางสัมผัสกับแผ่นหยุดล้อที่อยู่ในตำแหน่งยก

    5. เลื่อนโครงรองรับลูกกลิ้งด้านหน้า (รูป 31) มาทางด้านหลัง จนกระทั่งสัมผัสกับลูกกลิ้งด้านหน้าของอุปกรณ์เครื่องที่อยู่ด้านหน้า

    หากคุณบรรทุกอุปกรณ์ต่างรุ่น หรืออุปกรณ์ที่มีติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างกัน (เช่น อุปกรณ์เครื่องหนึ่งติดตั้งชุดขับอุปกรณ์ตัดแต่ง) ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อยึดอุปกรณ์อย่างมั่นคงบนรถลากพ่วง

การบำรุงรักษา

กำหนดการบำรุงรักษาที่แนะนำ

ระยะการซ่อมบำรุงขั้นตอนการบำรุงรักษา
หลังจาก 10 ชั่วโมงแรก
  • ตรวจสอบแรงบิดของน็อตล็อกล้อ
  • ก่อนการใช้งานแต่ละครั้งหรือทุกวัน
  • ตรวจสอบแรงดันลมยาง
  • ทุกปี
  • ตรวจสอบความหลวมของแบริ่งล้อ
  • หล่อลื่นสายโซ่
  • ตรวจสอบแรงบิดของตัวยึดโครงรองรับลูกกลิ้ง
  • ตรวจสอบระยะหยุด (เฉพาะชุดอุปกรณ์ขนย้ายด้วยรางเท่านั้น)
  • การตรวจสอบแรงดันลมยาง

    ระยะการซ่อมบำรุงขั้นตอนการบำรุงรักษา
    ก่อนการใช้งานแต่ละครั้งหรือทุกวัน
  • ตรวจสอบแรงดันลมยาง
  • ข้อมูลจำเพาะแรงดันลมยาง: 34 กิโลปาสกาล (5 ปอนด์ต่อตร.นิ้ว)

    ตรวจสอบแรงดันลมในล้อ (รูป 32) เพิ่มหรือลดแรงดันลมตามความจำเป็นเพื่อปรับแรงดันลมในยางให้ตรงตามค่าที่ระบุไว้ในข้อกำหนดแรงดันลมยาง

    g001055

    การตรวจสอบความหลวมของแบริ่งล้อ

    ระยะการซ่อมบำรุงขั้นตอนการบำรุงรักษา
    ทุกปี
  • ตรวจสอบความหลวมของแบริ่งล้อ
    1. ขนย้ายอุปกรณ์ที่อยู่บนรถลากพ่วงลงมา

    2. ใช้แม่แรงยกรถลากพ่วงขึ้นและวางขาตั้งแม่แรงไว้ใต้รถลากพ่วง

    3. ตรวจสอบว่าแต่ละล้อหลวมเกินไปหรือไม่ (กล่าวคือล้อและดุมล้อสามารถขยับได้อย่างอิสระ)

      หากตรวจพบว่าล้อหลวมเกินไป โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่าย Toro ที่ได้รับอนุญาต

    การหล่อลื่นสายโซ่

    ระยะการซ่อมบำรุงขั้นตอนการบำรุงรักษา
    ทุกปี
  • หล่อลื่นสายโซ่
  • หยอดจาระบีอเนกประสงค์ลงบนสายโซ่แต่ละเส้น

    การตรวจสอบแรงบิดของตัวยึดโครงรองรับลูกกลิ้ง

    ระยะการซ่อมบำรุงขั้นตอนการบำรุงรักษา
    ทุกปี
  • ตรวจสอบแรงบิดของตัวยึดโครงรองรับลูกกลิ้ง
  • ขันตัวยึดโครงรองรับลูกกลิ้ง (รูป 33) จนได้แรงบิด 79 นิวตันเมตร (700 นิ้วปอนด์)

    g337082

    การตรวจสอบแรงบิดของน็อตล็อกล้อ

    ระยะการซ่อมบำรุงขั้นตอนการบำรุงรักษา
    หลังจาก 10 ชั่วโมงแรก
  • ตรวจสอบแรงบิดของน็อตล็อกล้อ
  • ข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับแรงบิด: 108 นิวตันเมตร (80ฟุตปอนด์)

    ตรวจสอบแรงบิดของน็อตล้อทุกครั้งที่ติดตั้งล้อและหลังจากใช้งานครบ 10 ชั่วโมงแรก

    ขันน็อตล้อตามรูปแบบดังแสดงใน รูป 34 จนได้แรงบิดตามที่ระบุ

    คำเตือน

    หากไม่ใช้แรงบิดที่เหมาะสมอาจทำให้ล้อหมุนผิดปกติหรือหลุดออก และส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บได้

    ขันน็อตล้อจนได้แรงบิดตามที่ระบุ

    g274650

    การตรวจสอบระยะหยุด

    เฉพาะชุดอุปกรณ์ขนย้ายด้วยรางเท่านั้น
    ระยะการซ่อมบำรุงขั้นตอนการบำรุงรักษา
    ทุกปี
  • ตรวจสอบระยะหยุด (เฉพาะชุดอุปกรณ์ขนย้ายด้วยรางเท่านั้น)
  • หลังจากที่ทางลาดล็อกอยู่ในตำแหน่งยกขึ้นแล้ว ให้วัดระยะห่างระหว่างจุดหยุดกับด้านล่างของราง

    ระยะห่างควรอยู่ที่ 2.5 มม. (0.1 นิ้ว) ดังแสดงใน รูป 35 หากวัดได้แตกต่างจากนี้ ให้ปรับเกลียวเร่งและน็อตสวมทับจนกระทั่งได้ระยะห่างที่เหมาะสม

    g348160